“อนุทิน” ฝากปลัดฯ ตำหนิผู้ว่าปราจีนฯ บอกสมควรแล้วถูกวิจารณ์

(30 เม.ย. 68) ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวกรณีนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าฯปราจีนบุรี แต่งตั้งชาวจีนเป็นที่ปรึกษา ก่อนจะยกเลิกหลังได้รับเสียงวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมว่า ก็สมควรที่จะได้รับวิพากษ์วิจารณ์ เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

ทราบว่าวันนี้ผู้ว่าฯปราจีนบุรีได้มีคำสั่งยกเลิกแล้ว เมื่อวานนี้ ตนได้รับรายงานจากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงได้ฝากตำหนิไปว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นถึงผู้ว่าฯ ต้องมีวุฒิภาวะ เชื่อว่าปลัดกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตักเตือน ส่วนตนต้องขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ

เมื่อถามว่าจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ความผิด แต่หากจะบอกว่าตั้งเป็นที่ปรึกษาเพื่อเป็นเกียรติยศนั้นไม่ใช่ เกียรติยศของผู้ว่าฯ คือการรับใช้ประชาชนเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเกียรติยศที่จะมีใครมาประดับบารมี

ตนก็ชัดเจนแบบนี้ มองว่าการแต่งตั้งที่ปรึกษานั้นเปลืองกระดาษราชการ เพราะคนเราจะปรึกษากัน สามารถใช้วิธีการพูดคุยกันได้ หากมีเจตนาที่ดีต่อกัน เรื่องแค่นี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ ขอให้ประชาชนนั้นอย่ากังวล ย้ำว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง

เมื่อถามว่าคำชี้แจงของผู้ว่าฯปราจีนบุรี แต่งตั้งที่ปรึกษาชาวจีนเพื่อรับการพัฒนาเป็นพื้นที่ EEC นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเหตุผล เพราะผู้ว่าฯ เป็นข้าราชการ ซี 10 ระดับอธิบดี ซึ่งตำแหน่งที่ปรึกษาแบบนี้ไม่มีอัตรา ไม่มีเงินเดือน อยู่ในระบบราชการ และเป็นถึงผู้ว่าฯ เวลาอยากจะปรึกษาใคร มีคนพร้อมให้คำปรึกษาอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่มาทำนิคมอุตสาหกรรมในจ.ปราจีนบุรี ยิ่งให้คำปรึกษาผู้ว่าฯ ก็จะได้ผลดีไปด้วย แต่ไม่ใช่ผลประโยชน์

ทั้งนี้ ตนได้ปรึกษาผู้คนมากมาย โดยเฉพาะคนที่มีความรู้ในระดับสูง ยิ่งขอร้องว่าไม่ต้องแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ ขอคุยกันเงียบๆ ไม่ต้องบอกใคร

ก่อนจะย้ำอีกครั้งถึงคำชี้แจงของผู้ว่าฯว่า ฟังไม่ขึ้น และกล่าวขอโทษประชาชนแทนกระทรวงมหาดไทย ส่วนจะมีจังหวัดอื่นที่ตั้งชาวต่างชาติเป็นที่ปรึกษาอีกหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงมหาดไทยต้องไปตรวจสอบ

เมื่อถามว่าการตั้งที่ปรึกษามีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งมองในแง่ร้ายขนาดนั้น เพราะหากมีผลประโยชน์ เชื่อว่าคงไม่กล้าทำแบบเปิดเผย ต้องให้ความเป็นธรรมให้มากที่สุด มองว่าเป็นเรื่องของความเหมาะหรือไม่เหมาะมากกว่า