หน้ากากอนามัยแบบไหนที่ใช่? ป้องกันฝุ่น PM 2.5 และโรคระบาดได้จริง

(เรียบเรียงโดย อพัชชา ทองสนิท และ กัญญาณัฐ อาศัย)

ประเภทของหน้ากากอนามัยที่ใช้ป้องกันฝุ่น PM2.5

1. หน้ากากอนามัยทั่วไป เป็นหน้ากากทางการแพทย์ผลิตขึ้นเพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส
2. หน้ากาก N95 เป็นหน้ากากอนามัยชนิดที่ช่วยป้องกันการเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก ๆประสิทธิภาพในการป้องกันจะสูงกว่าหน้ากากอนามัยแบบทั่วไป และสามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอยางดี
3. หน้ากากซิลิโคนป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กและสารเคมี ทำจากซิลิโคนอย่างดี ช่วยเพิ่มความสบายและให้ความทนทานในการปกป้องระบบทางเดินหายใจ หายใจได้ง่ายขึ้นและสามารถลดความร้อนและความชื้นที่สะสมอยู่ด้านใน สามารถทำความสะอาดและเปลี่ยนแผ่นกรองได้ ทนทาน ใช้ได้นาน

วิธีการเลือกหน้ากากอนามัยที่เหมาะสม

1. สังเกตวันหมดอายุ
2. ขนาดเหมาะสม ครอบได้กระชับจมูกและใต้คาง
3. ไม่หัก งอ บิดเบี้ยว เปื้อนหรือฉีกขาด ไม่มีกลิ่นฉุน
4. มีสายรัดสองสาย

วิธีการสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรคอย่างถูกต้อง

1.หน้ากากอนามัยทั่วไป

• ทำความสะอาดมือก่อนใส่หน้ากาก
• หันด้านที่มีสีออกข้างนอก หันด้านสีขาวเข้าตัว
• จับสายจากด้านข้างแล้วคล้องที่หลังหู
• กดแกนโลหะด้านบนให้แนบกับหน้า
• ดึงหน้ากากด้านล่างให้ถึงใต้คาง

2.หน้ากากกรองฝุ่นชนิด N95                       

• ทำความสะอาดมือก่อนใส่หน้ากาก
• ตรวจสอบหน้ากากให้ไม่มีรอยขาดและหันแถบโลหะไปด้านบน
• ใส่หน้ากากให้ครอบคลุมจมูกและปาก แล้วปรับแถบโลหะให้กระชับกับจมูก
• คล้องสายรัดที่หูหรือศีรษะให้กระชับ แล้วตรวจสอบให้หน้ากากพอดีกับใบหน้า ไม่มีอากาศลอดเข้า

3.หน้ากากซิลิโคนป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กและสารเคมี

• ทำความสะอาดมือก่อนใส่หน้ากาก
• วางหน้ากากไว้ตรงจมูกและปากแล้วใส่ที่คาดศีรษะ
• ดึงแถบคาดที่อยู่บริเวณใต้ศีรษะมาที่คอ
• ปรับหน้ากากให้อยู่บริเวณใต้จมูกเพี่อให้เกิดการมองเห็นที่กว้างขึ้น
• ปรับแถบคาดศีรษะให้พอดีกับหน้ากาก

ที่มา:

สมาคมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน (ส.อ.ป.)

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข