ลูกร้องพ่อถูกลูกหนี้ทำร้ายร่างกาย หลังทวงหนี้คงค้าง 5,000 บาท

ลูกร้องพ่อถูกลูกหนี้ทำร้ายร่างกาย หลังทวงหนี้คงค้าง 5,000 บาท

80309 ก.ค. 68 12:24   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ลูกร้องพ่อถูกลูกหนี้ทำร้ายร่างกาย หลังทวงหนี้คงค้าง 5,000 บาท แจ้งความคดีไม่คืบหน้า หวั่นไม่ปลอดภัย ขอให้เปลี่ยนข้อหาเป็นพยายามฆ่า

(9 ก.ค. 68) ที่ศูนย์ประสานงานเพจ “สายไหมต้องรอด” ลุงวัย 60 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ “สายไหมต้องรอด” หลังถูกไม้ฟาดหน้าปางตาย จมูกหักกระดูกหน้าแตก คดีไม่คืบ หวั่นไม่ปลอดภัย ขอให้เปลี่ยนข้อหาเป็นพยายามฆ่า


นายชัยยุทธ อายุ 60 ปี ในสภาพจมูกหักและกระดูกใบหน้าแตก ทำให้หายใจทางจมูกไม่ได้ และมีเลือดไหลออกตลอดเวลา เล่าว่า จนถึงตอนนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า จึงกังวลเรื่องความปลอดภัยและอยากขอความช่วยเหลือ โดยวันนี้ได้นำเสื้อเปื้อนเลือดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุและยาที่ได้รับจากแพทย์มาให้สื่อดูด้วย


น.ส.ภัทรพร ลูกสาวของนายชัยยุทธ เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.48 น. พ่อถูกทำร้ายร่างกายด้วยการถูกตีศีรษะจนสลบ เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งพ่อ แม่ และหลาน ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันรู้สึกไม่ปลอดภัย อีกทั้งข้อหาที่ได้รับแจ้งความไว้เป็นเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนมองว่าโทษไม่หนัก จึงอยากให้เพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือในการประสานเจ้าหน้าที่เปลี่ยนจากข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นข้อหาพยายามฆ่า 


เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะมีเพียงเด็กกับคนแก่ที่อยู่ในบ้าน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการทวงเงินเพียง 5,000 บาทที่ค้างกัน แล้วผู้ก่อเหตุไม่พอใจจึงเรียกพ่อออกไปพูดคุยเพื่อเคลียร์ปัญหา แต่กลับทำร้ายพ่อโดยที่พ่อไม่ทันตั้งตัว 


ตนรู้สึกแย่มากกับอาการบาดเจ็บของพ่อและคิดว่าถ้าพ่อโดนตีอีกครั้งอาจเสียชีวิตได้ โชคดีที่แม่เข้าไปช่วยไว้ได้ทัน แต่แม่ตนซึ่งเป็นผู้หญิงก็ยังถูกตีด้วย ทำให้รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมากที่พ่อแม่โดนตีทั้งคู่ และกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม


ด้านนายชัยยุทธ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เกิดจากการที่ตนเดินทางไปทวงเงินจำนวน 5,000 บาทจากนายอาซี อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยเงินจำนวนนี้เกี่ยวข้องกับการที่ทั้งสองต้องนำไปใช้ในการไถ่ถอนที่ดินจากโรงงานน้ำตาล ซึ่งก่อนหน้านี้เงินจำนวน 10,000 บาทได้สูญหายไประหว่างเดินทางไปไถ่ถอนที่ จึงตกลงกันว่าให้ช่วยกันออกคนละครึ่ง


ต่อมา นายชัยยุทธทราบว่านายอาซีเป็นผู้นำเงิน 10,000 บาทไป จึงเดินทางไปทวงเงินคืน 5,000 บาทที่ตนได้สำรองจ่ายไปก่อนหน้านั้น แต่กลับถูกนายอาซีเรียกออกมานอกบ้าน อ้างว่าจะพูดคุยเคลียร์กัน และทันทีที่ตนก้าวออกจากบ้าน กลับถูกฟาดด้วยท่อนไม้เข้าที่ใบหน้าอย่างแรงจนหมดสติ และไม่สามารถจำเหตุการณ์หลังจากนั้นได้อีก มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อยู่บนรถกำลังถูกนำส่งโรงพยาบาล


อย่างไรก็ตาม เมื่อตนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น กลับไม่ได้รับการรับแจ้งความโดยตรง เจ้าหน้าที่เพียงลงบันทึกประจำวันไว้ และให้ไปพบแพทย์ก่อน จากนั้นจึงค่อยกลับมาแจ้งความใหม่ ทำให้ตนรู้สึกไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และเกรงว่าจะถูกทำร้ายซ้ำ


ปัจจุบัน นายชัยยุทธได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้แก่ จมูกหัก กระดูกแก้มทั้งสองข้างแตก และมีรอยฟกช้ำตามร่างกายจากการถูกตี โดยเฉพาะที่บริเวณขา ส่งผลให้ต้องหายใจทางปาก และมีเลือดออกจากจมูกตลอดเวลา แพทย์ลงความเห็นในใบรับรองแพทย์ว่า กระดูกใบหน้าและจมูกหัก


ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุกระทั่งปัจจุบัน นายอาซียังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่แสดงความรับผิดชอบหรือเยียวยาใดๆ ทำให้ผู้เสียหายกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีที่เกิดขึ้น


นายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ก็จะประสานงานกับ สน.บางโพงพางโดยเร็ว เพื่อสอบสวนหาสาเหตุการทะเลาะวิวาท แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ไม่สมควรทำร้ายร่างกายกันเช่นนี้ และผลการตรวจจากใบรับรองแพทย์ก็ระบุว่าบาดเจ็บสาหัส ส่วนจะถึงขั้นพยายามฆ่าหรือไม่นั้น ต้องดูแนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผลการตรวจอย่างละเอียดจากแพทย์นิติเวช ซึ่งเชื่อว่าไม่นานน่าจะนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat