รวบหนุ่มสุพรรณฯ ถูกลวงให้ขนต่างด้าวก่อนบังคับขนยาบ้า พร้อมขู่ตายห้ามหนี สุดท้ายโดนรวบ

รวบหนุ่มสุพรรณฯ ถูกลวงให้ขนต่างด้าวก่อนบังคับขนยาบ้า พร้อมขู่ตายห้ามหนี สุดท้ายโดนรวบ

74607 ก.ค. 68 18:29   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มสุพรรณฯ ถูกลวงให้ขนต่างด้าวก่อนบังคับขนยาบ้า พร้อมขู่ตายห้ามหนี สุดท้ายโดนรวบพร้อม ยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 4 ล้านเม็ด

(7 ก.ค.68)กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. นำโดย พ.ต.ท.ทวี ไพรสุวรรณ สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายโชติวัตฯ อายุ 30 ปี ข้อหา “ร่วมกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนอันเป็นการกระทำที่ให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”


พร้อมตรวจยึดของกลาง 

1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติดใส จำนวน 10 ห่อๆ ละ 10 ถุง บรรจุเป็นมัดหุ้มด้วยกระดาษไขครีม (ประทับตรา รูปแอปเปิล มี่อักษร 999 สีน้ำเงิน) จำนวน 46 มัด มัดละ 10,000 เม็ด รวมเป็นยาบ้า 460,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบสีขาวห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติดสีดำพัน

ด้วยเทปใส จำนวน 9 กระสอบ รวมยาบ้าทั้งสิ้น ประมาณ 4,048,000 เม็ด

2.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Chevrolet สีเทา ทะเบียน ลพบุรี

3.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Iphone สีเทา


 

สถานที่จับกุม บริเวณปั๊ม ปตท.แห่งหนึ่ง ทล.2062 กม.10-11 ต.พระยืน อ.พระยืน จ.ขอนแก่น

 

พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดในลักษณะ

เป็นขบวนการ ผ่านพื้นที่ จ.ขอนแก่น จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อวางแผนการจับกุม และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ


ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ออกตรวจมาถึงบริเวณ ทล.2062 เส้นทางบ้านทุ่ม-พรยืน-มัญจาคีรี

พบรถยนต์กระบะ สี่ประตู สีแดง ลักษณะโหลดเตี้ย หมวดจังหวัดอุทัยธานี ขับผ่านมา จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ พบผู้หญิง เป็นคนขับขี่ มีลักษณะท่าทางพิรุธ จึงได้เข้าตรวจสอบ สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ได้เดินทางไปหาแฟนที่จังหวัดสกลนคร และกำลังจะเดินทางกลับไป จ.สุพรรณบุรี จากการตรวจสอบภายในรถไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่หญิงคนดังกล่าวมีลักษณะท่าทางพิรุธ เนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ หญิงคนดังกล่าวพยายามพิมพ์ข้อความทางโทรศัพท์หาใครอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเชื่อว่าน่าจะมีรถที่ขนสิ่งของผิดกฎหมายขับตามมาด้านหลัง และแจ้งให้หญิงคนดังกล่าวเดินทางต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้จึงได้ขับรถย้อนกลับเข้าไปตรวจสอบภายในปั๊ม ปตท. แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 1 กม. เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Chevrolet สีเทา ทะเบียน ลพบุรี จอดอยู่ภายในปั๊ม มีลักษณะท่าทางพิรุธ จึงตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ไม่พบผู้ขับขี่จึงใช้ไฟฉายส่องเข้าไปในรถคันดังกล่าว 



พบก้อนสี่เหลี่ยมสีดำหลายก้อน อยู่ภายในรถ จึงได้ทำการตรวจสอบพื้นที่บริเวณโดยรอบ พบผู้ต้องหา กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำภายในปั๊ม เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม มีอาการตกใจและได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงไล่ติดตามและสามารถควบคุมตัวไว้ได้


สอบถามผู้ต้องหารับว่าตนเป็นคนขับรถคันดังกล่าวมาเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจค้นรถ โดยก่อนทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ดูจนเป็นที่พอใจ 


ก่อนเริ่มทำการตรวจค้น และผลการตรวจค้นพบยาบ้าของกลางลำดับที่ 1 บรรจุอยู่ในภายในรถคันดังกล่าว สอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่าตนเป็นคนขับรถคันดังกล่าวจริง โดยในตอนแรกได้รับการว่าจ้างให้ไปขนคนต่างด้าวที่ จ.บึงกาฬ เข้ามาส่งบริเวณภาคกลาง โดยตกลงค่าจ้างในการขน หัวละ 8,000 บาท แต่เมื่อมาถึงจุดนัดหมายที่ปั๊ม ปตท.แห่งหนึ่ง ที่ จ.บึงกาฬ



ได้มีชาย 2 คน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร ได้มาขับรถคันดังกล่าวออกไป และให้ผู้ต้องหานั่งรออยู่ที่ปั๊ม อยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นชาย 2 คนดังกล่าว จึงได้ขับรถคันดังกล่าวกลับมาพร้อมกับยาบ้าของกลางลำดับที่ 1 และให้ผู้ต้องหาขับรถนำยาบ้าของกลางดังกล่าว ไปส่ง และข่มขู่ถึงขั้นเอาชีวิตหากผู้ต้องหาทิ้งงานหลบหนี       


โดยจุดหมายปลายทางที่จะส่งของ จะส่ง GPS มาให้ผู้ต้องหาภายหลัง ผู้ต้องหา ยังให้การรับอีกว่า ในการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้ มี น.ส.พลอยฯ ภรรยาของผู้ต้องหา ทำหน้าที่เป็นคนขับรถสเก๊าต์หน้า โดยใช้รถกระบะอีซูซุ สีแดง ทะเบียน อุทัยธานี (เป็นรถคันเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ เรียกตรวจก่อนหน้านี้)



โดยทำหน้าที่ขับนำ คอยตรวจสอบเส้นทาง และแจ้งความคืบหน้าให้กับผู้ต้องหาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะเมื่อเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา พร้อมสิทธิ์ในชั้นจับกุมให้ผู้ต้องหาทราบ จากนั้นได้ทำการควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา​ ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม สวญ.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. โทร.082-4419532

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat