คนไทยแห่ขายบ้าน ผลจากตีเส้นแบ่งแนวชายแดนไทย-เมียนมา
คนไทยแห่ขายบ้าน ผลจากตีเส้นแบ่งแนวชายแดนไทย-เมียนมา

คนแม่สายแห่ประกาศขายบ้าน หลังมีการตีเส้นแบ่งแนวชายแดนไทย-เมียนมา ตึกบางหลังถูกแนวเขตผ่ากลาง จำเป็นต้องทุบส่วนที่รุกล้ำเข้าฝั่งเมียนมา ชาวบ้านบอกตอนซื้อที่ปลูกบ้านมานาน นึกว่าเป็นพื้นที่ของไทย วอนภาครัฐลงมาดูแลความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นนี้
(21 มี.ค. 68) จากการณีที่ นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย เป็นประธานการประชุมที่ผ่านมา เตรียมดำเนินงานสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมระยะเร่งด่วน และทำเขตแดนไทย-เมียนมาร์ แผนการดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างรุกล้ำเขตเมียนมา 38 จุด การดำเนินการรื้อถอนบิ๊กแบ็ค โดยได้ให้ผู้นำชุมชน นำเรื่องไปชี้แจงทำความเข้าใจให้ลูกบ้าน ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ล่าสุดทางฝ่ายเมียนมาร์เคลื่อนไหว ขุดก่อกำแพงกั้นน้ำ 2 จุด ข้างสะพานแม่สายแห่งที่ 1 ไทย-เมียนมา และตรงข้ามบริเวณตลาดสายลมจอย หรือบริเวณอัลลัวร์ เตรียมก่อกำแพงฝังท่อซีเมนต์ ขณะเดียวกันเมื่อที่ 19 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย มอบหมายให้นายปวเรศ ปัญญายงค์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง พร้อมสมาชิก อส.อ.แม่สายที่ 5 ร่วมกับกองช่างเทศบาลตำบลแม่สาย วางหลักปูนแทนหลักไม้ไผ่ที่กรมแผนที่ทหาร จับพิกัดไว้ในพื้นที่รุกล้ำเขตแดนเมียนมา บริเวณร้านมังกี้ หมู่ที่ 1 ต.เวียงพางคำ วัดเกาะทรายคำ หมู่ที่ 7 ต.แม่สาย บ้านไม้ทรงไทย หมู่ที่ 2 ต.แม่สาย
ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจพบว่า มีการตีเส้นแบ่งเขตชัดเจน ฝังไทยและเมียนมาร์ นำเสาปูนแท่งทาสีแดงให้เห็นชัดเจน บริเวณหลังวัดเกาะทราบกำแพงด้านหลังต้องทุบกำแพงทิ้ง ซึ่งอยู่ในเขตเมียนมาร์ และยังพบว่ามีอาคารขนาด 3 ชั้นเป็นห้องเช่าพักอาศัย ได้ตีนเส้นผ่ากลางตึก ซึ่งต้องมีการทุบทิ้งบางส่วน และยังพบบ้านบริเวณใกล้แม่น้ำสาย มีการขึ้นป้ายประกาศขายจำนวนมาก ยังมีซอยไม้ลุงขน 12 ซึ่งเป็นซอยที่ติดกับแม่น้ำสาย ทางเจ้าหน้าที่ได้ตีเส้นแบ่งเขต ไทย-พม่า ซึ่งพบว่ามีตึกอาคารพักอาศัย มีจำนวน 5 คูหา ที่อยู่ในซอยอยู่ในเขตเมียนมาร์
ซึ่งจากการสอบถามนายสาม อายุ 36 ปี และนางเพ็ญ อายุ 40 ปี 2 พี่น้องชาวบ้านไม้ลุงขน ทราบว่า ได้มาซื้ออยู่อาศัยมาประมาณ 20 ปี ตอนที่ซื้ออยู่คิดว่าเป็นไทยเห็นแผ่นดินติดไทย อยู่มานานไม่เห็นมีใครมาว่าอะไรให้ จึงอยู่มาเรือยๆ ทำมาหากินเก็บเงินออมช่วยกัน 2 คนพี่น้องสร้างตึกขนาด 3 ชั้น จนเงินหมด ซึ่งทุกวันยังออกไปขายไก่ทอดเลี้ยงลูกน้อย และแม่เฒ่าที่แก่ชราที่ป่วยหลายโรค
ยังทราบอีกว่า ภายในซอยมีตึกที่กำลังก่อสร้างเสร็จ ก่อนที่น้ำท่วมได้ไม่นาน และกำลังจะเข้ามาอยู่ สุดท้ายคงไม่ได้อยู่จะถูกทุบทิ้ง เหตุอยู่ในเขตเมียนมาร์ และยังมีบ้านไม้หลังสวยอีก 1 หลัง ที่สร้างเข้าไปในเขตเมียนมาร์ก็ถูกรื้อถอน ซึ่งทางผู้นำชุมชนได้แจ้งให้ลูกบ้านต้องทำใจ ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ผลการรื้อถอนยังอยู่ในอาการช็อค ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้นึกว่าเป็นแผนดินไทย ไม่มีการแบ่งเขตให้ชาวบ้าน ทราบตั้งแต่นาน ซึ่งคนที่มีเงินน้อยนิดยังไม่รู้จะมีเงินย้ายไปอยู่ไหน เงินมีก้อนสุดท้ายก็หมด จากมีบ้านคงต้องไปเช่าบ้านอยู่ อยากจะให้ภาครัฐช่วยดูแลเรื่องนี้บ้าง
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
