เปิดประวัติ “ทนายตั้ม” ทนายประชาชน
เปิดประวัติ “ทนายตั้ม” ทนายประชาชน
เปิดประวัติ “ทนายตั้ม” จากทนายประชาชน รับทำคดีใหญ่คดีดัง สู่วันที่ถูกกล่าวหาฉ้อโกง-ยักยอกเงิน “มาดามอ้อย” เศรษฐินีไทย
(เรียบเรียงโดย ปิยะธิดา ผ่านจังหาร)
ตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เกิดที่จังหวัดสมุทรสาคร จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล โดยจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และจบการศึกษาระดับปริญญาโท จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก
ทนายตั้มเป็นทนายมาแล้วกว่า 20 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งเขาเริ่มเข้าวงการทนายด้วยการให้คำปรึกษาช่วยเหลือทางกฏหมายให้กับประชาชนฟรี ตามแหล่งชุมชน และโรงเรียน ก่อนจะมีการรวมทีมภายใต้ชื่อ “ทีมงานทนายประชาชน”
ทางทีมงานทนายประชาชนนอกจากให้คำปรึกษาช่วยเหลือทางกฏหมายแล้ว ยังมีอีกจุดประสงค์ คือ อยากปลุกฝั่งให้เยาวชนมีความรู้ในด้านกฎหมาย มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีการสอนเรื่องใกล้ตัวอย่างเช่น ยาเสพติด รักในวัยเรียน การใช้โซเชียลมีเดียต่าง ๆ จึงจัดตั้งโครงการ “พี่สอนน้อง ให้เป็นคนดีของสังคม” ตามโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีขึ้น
ต่อมาโครงการก็ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมากมาย ทั้งกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และหน่วยงานของจังหวัดต่าง ๆ พัฒนาจากโครงการเล็ก ๆ สู่ “มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม” ในปี 2559
นอกจากอาชีพทนายแล้ว เขายังมีบทบาทในด้านนักธุรกิจ คือ เป็นกรรมการบริษัทถึง 4 แห่ง แต่ปัจจุบันมีเพียงบริษัทเดียวที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ คือ บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด เป็นธุรกิจด้านกิจกรรมทางกฎหมายนั่นเอง
3 คดีดังที่ทนายตั้มได้รับผิดชอบ
- ปี 2560 คดี “หวย 30 ล้าน” จากกรณี ร.ต.ท.จรูญ ข้าราชการบำนาญ ที่ถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครู ยื่นฟ้องข้อหายักยอกทรัพย์ ในคดีอ้างสิทธิเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 30 ล้านบาท โดยทนายตั้มให้การช่วยเหลือกับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล และชนะในคดีดังกล่าวในภายหลัง
- ปี 2564 คดี “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งภายหลังถูกพบว่า เป็นศพอยู่บริเวณภูเหล็กไฟ ซึ่งทนายตั้มเป็นคนว่าความให้กับนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว
- ปี 2565 คดีที่สะเทือนใจวงการบันเทิงอย่าง การเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา” ซึ่งทนายตั้มเป็นคนช่วยสืบสาเหตุคดีการเสียชีวิตในครั้งนี้เช่นกัน
เศรษฐินีแฉ "ทนายตั้ม" หลอกเงิน 71 ล้านบาท
ชื่อเสียงของ "ทนายตั้ม" เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากการเข้ามาช่วยคดีดังต่างๆ ช่วงเดือน ต.ค. 67 ทนายตั้มร่วมกับเพื่อนทนายหลายคน จับมือกันเป็นทนายให้กลุ่มผู้เสียหายจากคดี "ดิ ไอคอน" ก่อนที่จะเจอมรสุมดราม่าเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ เข้ามาโจมตีไม่หยุด
โดยดราม่าแรกคู่กรณีคือ "บอสพอล" วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของบริษัท ดิ ไอคอน ได้ให้ทนายของตนเองออกมาเปิดเผยว่ามีทนายความชื่อดัง ติดต่อมาขอเงิน 7 ล้านบาทจากบอสพอล หลังเรื่องราวแดงขึ้นมาทนายตั้มได้ออกมาโต้ตอบว่าพูดคุยเรื่องเงินจำนวนดังกล่าวจริง แต่ด้วยจุดประสงค์จะนำไปเป็นเงินเยียวยาชดเชยให้กับเหยื่อของดิ ไอคอนเอง และยังไม่มีการโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้ เนื่องจากนายวัตน์พลถูกจับกุมก่อน
ส่วนอีกดราม่าที่กลายเป็นเรื่องใหญ่และเป็นคดีขึ้นมา เปนกรณีของ "มาดามอ้อย" เศรษฐินีชาวไทยที่พำนักอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ที่ออกมาแฉว่าถูกทนายตั้มหลอกลวงเงินก้อนใหญ่ 71 ล้านบาท อ้างว่าจะเอาไปลงทุนกับสลากออนไลน์ให้ ขณะที่ทนายตั้มก็ออกมาโต้ว่าเงินก้อน 71 ล้านบาทนั้นเป็นเงินที่ "มาดามอ้อย" ให้ตนมาโดยเสน่หา ไม่ใช่การหลอกลวงลงทุน
ก่อนที่ "มาดามอ้อย" จะออกมาเปิดเผยข้อมูลเงินก้อนอื่นๆ ที่ตนเองเสียไป จนนำมาสู่การแจ้งความจับทนายตั้ม ใน 4 คดี คือ หลอกลงทุนสลากออนไลน์ 71 ล้านบาท, กรณีเงิน 39 ล้านบาท ที่ทนายตั้มอ้างว่ามาดามอ้อยถูกสแกมเมอร์หลอก, ปมซื้อรถเบนซ์ 13 ล้านบาท, และกรณีหลอกออกแบบสร้างโรงแรม มูลค่า 9 ล้านบาท
จนล่าสุดวันที่ 7 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับทนายตั้มและภรรยา ใน 3 ข้อหาหนักคือ ฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ก่อนที่จะสามารถจับกุมตัวทนายตั้มและภรรยาได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเชื่อว่าทั้งคู่อยู่ระหว่างที่จะหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
"เจ๊อ้อย" เปิดใจครั้งแรก ยันไม่ได้ให้เงิน 71 ล้านบาทโดยเสน่หา
"ทนายตั้ม" ดอดให้ปากคำกองปราบยืนยัน 71 ล้าน ได้โดย "เสน่หา"
"เจ๊อ้อย"ให้ปากคำกว่า 10 ชม. ไม่กังวล"ทนายตั้ม"เปิดตัวแถลงข่าว