รถกู้ภัยฝ่าสายฝน เสียหลักพลิกคว่ำ - จยย.หักหลบเสาไฟที่ล้มขวางถนน เหตุซ้ำซ้อนเจ็บรวม 5 ราย

รถกู้ภัยฝ่าสายฝน เสียหลักพลิกคว่ำ - จยย.หักหลบเสาไฟที่ล้มขวางถนน เหตุซ้ำซ้อนเจ็บรวม 5 ราย

90606 ก.ค. 68 19:15   |     Tum1

เหตุซ้ำซ้อนเจ็บรวม 5 ราย! รถกู้ภัยช่วยเคลื่อนศพขับฝ่าสายฝน เสียหลักพลิกคว่ำ ขณะ จยย.สวนทางหักหลบเสาไฟที่ล้มขวางถนน รถล้มเจ็บ

วันที่ 6 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 12.30 น. ที่จังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุกลางสายฝน บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม เยื้องแขวงทางหลวงนครพนม โดยรถกระบะของสมาคมกู้ภัยศรีสัตตนครพนม เสียหลักพลิกคว่ำ ขณะกำลังไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเคลื่อนศพผู้เสียชีวิต ออกจากบ้านเพื่อแห่ไปฌาปนกิจ ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เมื่อมีรถจักรยานยนต์หักหลบเสาไฟส่องสว่างที่ล้มขวางถนน ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 5 ราย เจ้าหน้าที่เร่งนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลนครพนมโดยด่วน 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เข้าเคลียร์พื้นที่จนสามารถเปิดช่องทางเดินรถได้เป็นปกติ



เหตุการณ์แรกเกิดขึ้น โดยรถกู้ภัยศรีสัตตนครพนม มีเจ้าหน้าที่ 3 คน มุ่งหน้าไปช่วยงานแห่ศพที่ ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม ท่ามกลางสภาพอากาศที่ฝนตกหนัก และขอบพื้นถนนเป็นร่อง ทำให้มีน้ำขัง และรถเสียหลักลื่นข้ามเกาะกลางถนน พุ่งชนเสาไฟฟ้าส่องทางจนหัก และไถลพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า แรงกระแทกทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บ 

และเนื่องจากบริเวณที่รถพลิกคว่ำ เป็นช่วงทางโค้งพอดี ปรากฎว่ามีรถจักรยานยนต์ Yamaha ขับขี่มาเจอเสาไฟฟ้าที่หักโค่นอยู่กลางถนน ผู้ขับขี่เป็นชายมีญาติเป็นหญิงนั่งซ้อนท้าย ได้หักหลบอย่างกะทันหัน รถจึงลื่นล้มมีบาดแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 5 รายดังกล่าว



เจ้าหน้าที่จึงฝากเตือนประชาชน และผู้ใช้รถใช้ถนน ช่วงหน้าฝนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจาก ถนนจะเปียกลื่นและมีน้ำขัง ประกอบกับมีการขยายช่องทางจราจร ผู้รับเหมาบางรายไม่มีสัญญาณไฟเตือน ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น 

ขณะขับขี่อยู่ในพื้นที่ควรชะลอความเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น และเปิดไฟหน้ารถเสมอ เพื่อความปลอดภัยของท่านและผู้ร่วมทาง โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ แนะนำว่า ในการขับรถผ่านถนนที่มีน้ำขัง ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วลง เมื่อขับผ่านถนนที่เปียกลื่นและเพิ่มระยะห่าง ระหว่างรถคันหน้ามากขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อเทียบกับการขับบนถนนที่แห้ง เพื่อการเบรกอย่างปลอดภัย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat