ชีวิตที่ผกผัน ของ “แม่ตั๊ก กรกนก”

ชีวิตที่ผกผัน ของ “แม่ตั๊ก กรกนก”

69304 ต.ค. 67 20:46   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เปิดประวัติ 'แม่ตั๊ก-กรกนก สุวรรณบุตร' ชีวิตพลิกผันจากเด็กเก็บของเก่า สู่แม่ค้าขายทองออนไลน์พันล้าน ก่อนจะตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง

(เรียบเรียงโดย ปิยะธิดา ผ่านจังหาร)

ตั๊ก กรกนก สุวรรณบุตร หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ "แม่ตั๊ก กรกนก" ที่มีชื่อเสียงจากการเป็นแม่ค้าออนไลน์ ที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก จากความใจบุญที่คอยช่วยเหลือผู้คนจนมีคนรักและศัทธาจำนวนมาก จนทำให้ธุกิจที่ทำมีคนคอยสนับสนุนอยู่ตลอด

 

แม่ตั๊ก เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี เกิดที่เกาะสมุย เติบโตมากับครอบครัวที่ทำธุรกิจรับซื้อของเก่า แต่แล้วชีวิตก็กลับพลิกผันในตอนที่เธออายุเพียง 12 ปี ฐานะทางบ้านจึงล้มละลายหลังพ่อของเธอเสียชีวิต เพราะไม่มีใครสารต่ออาชีพของพ่อได้ แม่จึงกลายเป็นผู้นำครอบครัวแทน สู้ชีวิตมาอย่างยากลำบาก กระทั่งอายุ 19 ปี เธอเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในคณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน เพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ เธอจึงทำงานทุกอย่างตั้งแต่แจกโบรชัวร์ วันละ 300-500 บาท เด็กเสิร์ฟพาร์ทไทม์ วันละ 145 บาท ไปจนถึงงานนับรถผ่านทางหลวง วันละ 500 บาท ส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ เอกกฎหมายการเมือง

 

จุดเปลี่ยนชีวิตเกิดขึ้นเมื่อเธอขายของที่ตลาดนัด กกท.รามคำแหง เธอขายอาหารเสริม ครีม ของเบ็ดเตล็ด ที่หิ้วมาจากสำเพ็ง ขาบบ้างไม่ได้บ้าง ได้กำไรวันละ 3,000 บาท กระทั่งรู้จักธุรกิจขายของออนไลน์ เธออยู่ในยุคแรกๆของการขายของออนไลน์ ลองผิดถูกมากว่า 2 ปี ก่อนจะเริ่มจับทางได้ แม่ตั๊กยังเคยบอกอีกว่าถึงแม้จะยังไม่มีเงินมากแต่เธอมีความชื่นชอบ “ทอง” เป็นพิเศษ มีเล็กๆ น้อยๆ ก็จะนำไปขายบ้างจำนำบ้าง

 

ในปี 2564 เธอกล่าวว่าเธอมีทองในเซฟประมาณร้อย ๆ ล้าน บริษัท ที่ดิน อสังหา รวมแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจเด่น ๆ ที่ทำให้ผู้คนติดตามและอุดหนุนคือการขายทอง ที่ราคาเข้าถึงได้และได้ทำบุญไปด้วย เนื่องจากเธอชอบนำเงินจากการขายส่วนหนึ่งไปร่วมทำบุญให้เห็นบ่อย ๆ ด้วยเรื่องราวความสู้ชีวิตและความใจบุญของเธอนี้จึงทำให้ผู้คนที่ซื้อของเธอผ่านออนไลน์มีความศรัทธาในตัวเธออย่างมาก และเธอก็ได้มีสามีที่ร่วมทำธุรกิจด้วยกันมาคือ เบียร์ กานต์พล เรืองอร่าม หรือที่รู้จักในชื่อ “ป๋าเบียร์” และขยายธุรกิจมากขึ้น

 

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องชีวิตพลิกผันอีกครั้ง หลังมีผู้ใช้โชเชียลรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์คลิปลง TikTok ว่าได้นำกุหลาบทองคำ และจี้ไอ้ไข่ทองคำ ที่เคยซื้อมาจากร้านดังร้านหนึ่งในออนไลน์มาขายที่ร้านทองแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าร้านไม่รับซื้อ ระบุว่าทองไม่มียี่ห้อ ไม่ได้เปอร์เซ็นต์ และไม่มีใบรับรอง ทำให้คนโยงไปว่าใช่ร้านของแม่ตั๊กหรือไม่ กลายเป็นประเด็นดราม่าว่าร้านทองดังกล่าวขายทองปลอมหรือไม่ จากนั้นก็เริ่มมีผู้เสียหายจากออกมาแสดงตัวมากขึ้น

 

วันที่ 24 ก.ย. 2567 แม่ตั๊กและป๋าเบียร์คู่สามีภรรยาได้ออกมายืนยันผ่านรายการโหนกระแสว่า ร้านทองของตนขายทองทุกรูปแบบ เป็นทองรูปพรรณทั่วไป ทอง 96.5% ก็ขาย ส่วนทองปี่เซียะเป็นของมงคล สำหรับซื้อไปบูชา จะมีการจัดโปรพร้อมของแถมให้รู้สึกถึงความคุ้มค่า และยอมรับว่าไม่ได้อธิบายชัดเจนในบางครั้งที่ไลฟ์สด  แต่ถ้าลูกค้าที่ซื้อไปแล้วไม่สามารถขายต่อร้านอื่นได้ ก็ให้เอามาขายคืนที่ร้านของตน ขณะที่ผู้เสียหายแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือบางรายต้องการขายทองคืน แต่อีกหลายรายต้องการดำเนินคดี ซึ่งทาง สคบ.ออกมาให้ความเห็นว่า ต่อให้เยียวยาคดีก็ไม่จบ เพราะในทางกฎหมายคดีฉ้อโกงประชาชนผู้เสียหายคือรัฐ ส่วนกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าการโฆษณาขายทองมีความผิด ถึงจะเยียวยาค่าเสียหาย แต่ก็ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

วันที่ 30 ก.ย. 2567 ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เข้าตรวจค้นบ้านและบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด พร้อมหมายจับ น.ส.กรกรนก (แม่ตั๊ก) พร้อมนายกานต์พล (ป๋าเบียร์) ข้อหา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ , ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในคุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จากนั้นควบคุมตัวทั้งคู่ขึ้นรถตำรวจ เพื่อนำไปสอบปากคำที่ บก.ปคบ. หลังเสร็จสิ้นกระบวนการสอบปากคำ ใช้เวลานานเกือบ 8 ชั่วโมง ระหว่างถูกสอบสวนแม่ตั๊กมีสีหน้าไม่สู้ดีและร้องไห้ในบางช่วง จากสถานการณ์ที่ตึงเครียดและใช้เวลานานทำให้ทั้งคู่อยู่ในสภาพที่อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ก่อนถูกคุมตัวยังห้องขังชั้น 1 อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อรอส่งตัวฝากขังต่อไป

 

1 ต.ค. 2567 แม่ตั๊กและป๋าเบียร์ถูกนำตัวส่งขอฝากขังศาลอาญา โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และมีผู้เสียหายจำนวนมาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด ส่วนตำรวจได้ทำการรวบรวมหลักฐานขยายผลทางคดี เพื่อเตรียมออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องที่เคยร่วมรีวิวสินค้ากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เบื้องต้นพบว่าการเข้าร่วมรีวิวสินค้าอาจเข้าข่ายความผิดร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค

 

วันที่ 2 ต.ค. 2567 นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา และรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่าเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รับ แม่ตั๊ก ไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง และป๋าเบียร์ ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยผู้ต้องขังเข้าใหม่จะต้องทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งพบว่าทั้งคู่มีโรคประจำตัวแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ด้านแม่ตั๊ก ได้ขอเพิ่มยาคลายเครียดมาด้วย ทั้งคู่จะอยู่ในแดนกักโรคตามมาตรการป้องกันโควิด ประมาณ 5 วัน ก่อนย้ายเข้าแดนใน ล่าสุดผู้ต้องขังทั้ง 2 คน เริ่มปรับตัวได้ยังไม่มีการร้องขออะไรเพิ่มเติม

 

อ้างอิง : https://www.facebook.com/share/v/4jbyQPru6Teb76Ta/

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง