ชายอ้างตัวเป็นเชฟ หลอกหญิงให้รัก ก่อนชวนลงทุน หมดตัวแล้ว ชิ่งหนีหาเหยื่อรายใหม่ต่อ
ชายอ้างตัวเป็นเชฟ หลอกหญิงให้รัก ก่อนชวนลงทุน หมดตัวแล้ว ชิ่งหนีหาเหยื่อรายใหม่ต่อ

ชายอ้างตัวเป็นเชฟ หลอกหญิงให้รัก ก่อนชวนลงทุน หมดตัวแล้ว ชิ่งหนีหาเหยื่อรายใหม่ต่อ พบผู้เสียหายหลายราย ความเสียหายหลายล้านบาท
เมื่อวันนี้ 11 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวเอ และ นางสาวบี (นามสมมุติ) เดินทางเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกหลอกให้รัก ก่อนจะถูกปลอกลอกหมดจนตัว รู้ตัวอีกทีจดหมายทวงหนี้เต็มบ้าน
โดย นางสาวเอ กล่าวว่า ตนรู้จักกับนายตอง (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุ ผ่านทางแอปฯหาคู่ เมื่อเดือนมีนาคม 2566 แล้วคบหากัน จากนั้นชายดังกล่าว เริ่มออกอุบายขอใช้ชื่อตน ไปดาวน์รถกระบะให้พ่อเป็นของขวัญวันเกิด (พ.ค.66) ชายคนดังกล่าววางเงินดาวน์เอง 3 แสนบาท และอ้างจะเป็นคนผ่อนค่างวดเอง ทำให้ตนเชื่อใจ หลังจากวันรับรถ ตนก็ไม่เคยได้เห็นรถคันดังกล่าวอีกเลย
กระทั่งเดือน มิ.ย.66 นายตอง ได้เริ่มชวนตนลงทุนเปิดร้านอาหารญี่ป่น แต่อ้างว่าชื่อนายตองเองประวัติไม่ดี ให้ตนเป็นคนยื่นกู้กับธนาคารให้ จำนวน 6 ธนาคาร ได้เงินมารวม 6 แสนกว่าบาท จากนั้น นายตองได้หาทำเลตั้งร้าน จนมาได้ที่ จ.เชียงใหม่ และเริ่มหาผู้ร่วมลงทุน โดยโพสต์ผ่านทางกลุ่มหาผู้ลงทุนเชียงใหม่ จนได้ผู้ร่วมลงทุนมาคือ คุณแดน (สงวนชื่อ-สกุลจริง) ลงทุนมา 3.5 แสนบาท ก่อนมีปัญหากันแล้วถอนหุ้นออกภายหลัง
ตนได้จำนำทองคำช่วยเพิ่มสภาพคล่องอีกจำนวนหนึ่ง และเอารถที่บ้านอีกหนึ่งคันไปเข้าไฟแนนซ์ เพื่อที่จะเอาเงินมาจ่ายชดใช้ให้คุณแดน (ที่ถอนหุ้นไป) ต่อมา ร้านเริ่มไม่มีลูกค้าเข้า กระทั่งเดือน มิ.ย.67 กิจการร้านไปไม่รอด จึงได้ปิดตัวลง นายตอง จึงขอไปหางานทำ บอกว่าจะไปทำงานเชฟ ที่ จ.ประจวบฯ ในร้านโอมากาเกะ แยกกับตน ก่อนที่ตนจะมาจับได้ว่านายตองไปมีผู้หญิงคนอื่น ที่ทำงานร้านเดียวกันอีก จึงได้มีปากเสียงกัน ก่อนจะติดต่อนายตองไม่ได้อีกเลย
หลังจากนั้น ช่วงเดือนพฤษจิกายน 2567 นายตอง ได้พบเหยื่อคนใหม่ คือนางสาวบี เจอกันผ่านแอปฯหาคู่เช่นกัน นายตอง ใช้โปรไฟล์เป็นเชฟ และได้นัดเจอกัน ก่อนที่นายตอง จะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใกล้กับที่นางสาวบี ทำงาน และได้โทรหานางสาวบี ให้ออกไปเยี่ยม ก่อนอ้างว่า โทรศัพท์ล็อก ไม่สามารถโอนเงินชำระค่าสินค้าได้ จึงให้นางสาวบี ช่วยโอนเงินจ่ายค่าอาหาร
ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกัน และนายตอง อ้างว่าที่เดินทางไป จ.ขอนแก่น เพื่อมาดูแลธุรกิจอาหารญี่ปุ่น และชักชวนให้นางสาวบี มาทำงานด้วย มีการหลอกยืมเงินอ้างว่ายายเสียชีวิต หลอกจำนำมรัะย์สินต่าง และอื่นๆอีก ก่อนที่นายตอง จะบอกว่าเคยจดทะเบียนสมรสแล้ว อยู่ระหว่างการหย่าร้าง แบ่งสินสมรส หลังหย่าจะมาอยู่ด้วยกัน และหลอกเงินนางสาวบีอีกหลายครั้ง
ล่วงมาช่วงเดือนมีนาคม 2567 นายตอง อ้างว่า ภรรยาให้ลงไปทำอาหารให้ลูกค้าที่ร้านใน จ.ภูเก็ต และจึงตกลงกับนางสาวบีว่าจะขอไปทำงานเพื่อหาเงิน จากนั้นนางสาวบีกับนายตองก็แยกกัน นางสาวบี เดินทางกลับบ้านที่ จ.ขอนแก่น และนายตอง เดินทางไปจังหวัดภูเก็ต มีปัญหาอื่นๆตามมา อย่างการจับได้ว่านายตองมีผู้หญิงคนอื่น ก่อนที่จะติดต่อนายตองไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รวมความเสียหายที่นายตองหลอกลวง ของทั้งนางสาวเอและนางสาวบี กว่า 3 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายรายอื่น ที่แจ้งเข้ามาที่สายไหมต้องรอด ยังมีอีกหลายหลาย และรายล่าสุด ทางเพจสายไหมต้องรอด ได้ประสานผ่านทางผู้เสียหายรายใหม่ที่เป็นเยาวชน ให้ผู้ปกครองเข้าแจ้งความดำเนินคดี ในกรณีกักขังหน่วงเหนี่ยวและกระทำชำเราหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่
โดยเยาวชนรายดังกล่าว ได้แจ้ง ผ่านผู้ประสานงานเข้ามาว่า ได้คบหากับนายตอง ระยะหนึ่งและนายตองได้พาเข้ามาหลบอยู่ในกรุงเทพมหานคร ย่านลาดพร้าว นายตองได้นำ จยย.ของพี่สาวไปจำนำ และยังนำเงิน 2 หมื่นบาท ที่ผู้ปกครองได้โอนมาให้ไปซื้ออุปกรณ์การศึกษา ไปใช้จนหมด ก่อนส่งตัวเยาวชนขึ้นรถทัวร์เดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ เพียงลำพัง - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน