ลุยจับน้ำกระท่อมเมืองอุดรฯ หลังสาว ปวส.2 ซดหมดขวดดับปริศนา ด้านพ่อไม่ให้ผ่า รับศพกลับบ้านทันที
ลุยจับน้ำกระท่อมเมืองอุดรฯ หลังสาว ปวส.2 ซดหมดขวดดับปริศนา ด้านพ่อไม่ให้ผ่า รับศพกลับบ้านทันที
ตำรวจอุดรฯ ลุยจับร้านจำหน่ายน้ำกระท่อมกลางเมือง หลังเกิดเหตุสาว ปวส.ซดน้ำท่อม 1.5 ลิตรหมดขวด ก่อนดับปริศนาในห้องพัก ด้านพ่อผู้เสียชีวิตไม่ติดใจสาเหตุ รับศพกลับหนองคายทันที
(5 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเที่ยงวันนี้ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก.ป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.พิเชฐ ปักเคธาติ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และนายธีระชัย อรรคฮาด ป้องกันจังหวัดอุดรธานี นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม และกองร้อย อส.จ.อุดรธานี ที่ 1 เข้าตรวจค้นจับกุมร้านจำหน่ายน้ำกระท่อม ในเขต ทน.อุดรธานี จำนวน 3 จุด ได้ของกลาง น้ำกระท่อมผสมน้ำเชื่อม 433 ขวด น้ำเชื่อม 1,000 ขวด ใบกระท่อมสด 81 ถุง หลัง หญิงสาว ปวส.2 อายุ 19 ปี ดื่มน้ำกระท่อมขนาด 1.5 ลิตรหมดขวด ก่อนเสียชีวิตในห้องพัก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โดยเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายน้ำกระท่อม ในเขต ทน.อุดรธานี จำนวน 3 จุดนั้น จากการสืบสวนทราบว่าทั้ง 3 จุด เป็นเครือข่ายเดียวกัน ประกอบด้วย
จุดแรกชื่อร้านXXX อยู่ริมถนนอุดรดุษฎี เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึง ร้านเปิดปกติ แต่ไม่มีผู้ใดอยู่ในร้าน จึงทำการตรวจยึด น้ำกระท่อมผสมน้ำเชื่อมหลายรสชาติ จำนวน 308 ขวด น้ำเชื่อมในขวดแก้วขนาดเล็ก 1,000 ขวด
จุดที่สอง ชื่อร้านครัวXXX อยู่ในซอยละมุลอุทิศ ได้ของกลางน้ำท่อมผสมผสมน้ำเชื่อม 111 ขวด ใบกระท่อมสด 81 ถุง
จุดที่สาม เป็นร้านไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ในซอยจินตคาม ได้ของกลาง น้ำกระท่อมผสมน้ำเชื่อม 14 ขวด
การตรวจค้นครั้งนี้ ได้จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 6 ราย 4 รายแรกจับกุมได้ในจุดที่สอง ประกอบด้วย นางอยู่ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี , น.ส.ศิริพร (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี , นายประจักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี และนายธนารักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ทั้งหมดเป็นชาว จ.อุดรธานี และให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายน้ำกระท่อม ไม่รู้จักว่าใครเป็นเจ้าร้าน
นางอยู่ และ น.ส.ศิริพร อ้างว่า มาเลี้ยงหลานช่วยเจ้าของร้าน แต่ไม่รู้จักชื่อเจ้าของร้าน ส่วนนายประจักษ์ และนายธนารักษ์ อ้างว่า มานั่งเล่นในร้านเฉยๆ ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย จับกุมได้ในจุดที่สาม ชื่อนายอนุพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาว จ.อุดรธานี ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง มานั่งเล่นเฉยๆ และนายเฉลิมยศ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ชาว จ.อุดรธานี รับสารภาพว่า รับจ้างเป็นครั้งคราวจากเพื่อนรู้จักกัน มานั่งเฝ้าร้านและขายน้ำกระท่อมให้ ได้ค่าจ้างครั้งละ 300 บาท ที่ร้านจะขายขวดละ 100 บาท มีโปฯ 10 ขวดแถม 1 หรือ ซื้อแต่ละครั้งจะได้คูปอง 1 ใบ ครบ 10 ใบ แลกฟรี 1 ขวด
นายเฉลิมยศ กล่าวด้วยว่า เริ่มต้นเป็นแค่ลูกค้ามานั่งดื่มกินบ่อยๆ จึงถูกชักชวนมาเฝ้าร้านและขายของ ไม่เคยเห็นการต้มน้ำกระท่อม ที่ร้านจะรับที่บรรจุขวดแช่เย็นมาแล้วเอามาขาย ดื่มแล้วก็เฉยๆ แต่ดื่มเยอะก็เมา ข่าวที่ว่าหญิงสาวกินแล้วตาย ตนก็ยังไม่เห็น ไม่รู้เรื่อง แต่ที่ร้านมีบริการส่งทางไรเดอร์จริง
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากเหตุเสียชีวิตของหญิงสาวในห้องพัก และมีการอ้างว่าดื่มกินน้ำกระท่อมก่อนเกิดเหตุ ทางตำรวจและฝ่ายปกครอง ไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องนี้มานานแล้ว ได้มีการบูรณาการร่วมกันออกกวดขันจับกุมมาตลอด ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่า การเสียชีวิตของหญิงคนดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใด ต้องรอผลตรวจจากนิติเวช รพ.อุดรธานี อีกครั้ง
ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น กับผู้ต้องหาทั้งหมดในข้อหา “ร่วมกันกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 6 ข้อหาผลิตหรือจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการจะแจ้งข้อหาอื่นนั้น ต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง ว่าจะเข้าข่ายความผิดใดได้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี เพิ่มเติมว่า ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน นายทศพล (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี พ่อและญาติของ น.ส.กัลยา (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาติดต่อรับศพกลับไปทำพิธีตามความเชื่อทางศาสนา ที่บ้านเกิด ต.ทุ่งหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย โดยแจ้งว่า ไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต ไม่อนุญาตให้ผ่าศพเพื่อชันสูตร ซึ่งหมอระบุว่า เสียชีวิตเนื่องจาก หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
