เปิดใจนักเรียนชาวกัมพูชา ต้องหิ้วเสบียงจากไทยกลับไปให้ครอบครัว ที่อยู่ฝั่งกัมพูชา หลังมาตรการปิดด่าน
เปิดใจนักเรียนชาวกัมพูชา ต้องหิ้วเสบียงจากไทยกลับไปให้ครอบครัว ที่อยู่ฝั่งกัมพูชา หลังมาตรการปิดด่าน

พ่อแม่ที่เดินทางกลับปอยเปต หลังมาตรการปิดด่าน ล่าสุดเริ่มทนไม่ไหวให้ลูกๆ ที่เป็นนักเรียนข้ามมาเรียนฝั่งไทยหิ้วอาหารแช่แข็งกลับไปกัมพูชา
(8 ก.ค. 68) ถือเป็นเป็นระยะเวลาเกือบสองสัปดาห์ ที่รัฐบาลกัมพูชา มีนโยบายให้ชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ และมีการปิดด่าน ไม่ให้มีการนำเข้าสินค้า จากไทยผ่านช่องทางด่านพรมแดน แต่ที่บริเวณด่านพรมแดนคลองลึก อรัญประเทศ-ปอยเปต
ทีมข่าวสังเกตเห็น นักเรียนที่เดินทางจากกัมพูชา เขาไปเรียนที่ประเทศไทย แล้วเดินทางกลับกัมพูชาในช่วงเย็นมักจะหอบหิ้วสัมภาระต่างๆ และที่สังเกตเห็นพบว่านักเรียนมักจะซื้ออาหารแช่แข็งจากฝั่งไทยจำนวนหลายแพ็กเดินทางกลับไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อ และไก่ทอดเจ้าดัง
ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับนักเรียนชั้นม.ปลายซึ่งเป็นชาวกัมพูชา เดินทางข้ามมาเรียนฝั่งไทย แล้วเดินทางกลับ กัมพูชาในช่วงเย็น เธอเปิดเผยกับทีมข่าวว่า ทุกๆวัน ต้องซื้อ อาหารแช่แข็ง อย่างเช่น จ๊อ , ลูกชิ้น และปูอัด รวมถึงอาหารอื่นๆ ที่ทางครอบครัวฝากให้ซื้อ จากฝั่งไทย เพราะว่าครอบครัวเดินทางมายังฝั่งไทยไม่ได้เหมือนเช่นเคยจากปัญหาข้อพิพาทไทยกัมพูชา
ซึ่งหากยังไม่มีการเปิดด่านผลกระทบจะตกอยู่กับนักเรียนที่ไม่ใช่แค่เด็กโต แต่เด็กอนุบาลก็ต้องกลายเป็นคนเดินเสบียงให้กับครอบครัวแทน ซึ่งแต่ละคนก็ต้องแบกเสบียง ที่มีน้ำหนักกลับไปยังฝั่งกัมพูชา เพื่อให้ครอบครัวได้รับประทาน
ยอมรับว่าคนกัมพูชาฝั่งปอยเปตจะคุ้นชินกับการกินอาหารที่มาจากไทยมากกว่าอาหารจากฝั่งกัมพูชา เรื่องนี้จึงอยากให้รัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทยมองเห็นถึงผลกระทบที่เริ่มส่งผลถึงเยาวชน ซึ่งจริงๆแล้วประชาชนคนกัมพูชาและคนไทย บริเวณด่านชายแดนคลองลึก อรัญประเทศ-ปอยเปตเป็นเหมือนพี่น้องกัน ไม่ได้มีปัญหากันเลย แต่กลับได้รับผลกระทบอย่างหนัก
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
