ด่านบ้านแหลม ชาวกัมพูชาเข้ามากกว่าออก พ่อค้าแม่ค้าเริ่มกลับมาเปิดร้าน

ด่านบ้านแหลม ชาวกัมพูชาเข้ามากกว่าออก พ่อค้าแม่ค้าเริ่มกลับมาเปิดร้าน

137721 มิ.ย. 68 16:46   |     Tum1

แรงงานกัมพูชาเดินทางเข้าไทย มากกว่าเดินทางออก หลังด่านถาวรบ้านแหลม หลังเปิดประตู ขณะพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเริ่มกลับมาเปิดร้านตามปกติ เชื่อมั่นการค้าขายฝั่งไทยดีกว่า

(21 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่บริเวณหน้าด่านถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลังจากประตูด่านบ้านแหลมเปิดในเวลา 08.00 น. พบว่าชาวกัมพูชาที่เดินทางข้ามแดน และชาวไทยที่จะเดินทางข้ามไปทำงานยังฝั่งประเทศกัมพูชา ได้มารอที่บริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อตรวจเอกสาร และเตรียมความพร้อมในการเดินทางข้ามฝั่ง  

และในเวลา 09.00 น.ที่ ตม.กัมพูชา เปิดด่าน ชาวกัมพูชาก็หลั่งไหลเดินเท้า พร้อมกับหอบสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับบ้าน แต่จากการสังเกตุ พบว่า ขณะที่ประตูเล็กฝั่งกัมพูชาเปิด ก็มีชาวกัมพูชาที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า และแรงงานรับจ้าง เดินทางข้ามฝั่งมาจำนวนไม่น้อยเช่นกัน เนื่องจาก ส่วนใหญ่ยังคงอยากกลับมาทำงาน และค้าขายในฝั่งไทย แม้ว่าประตูด่านใหญ่บ้านช่องโดง ของฝั่งกัมพูชา จะยังไม่เปิดให้รถขนส่งสินค้าใดๆผ่านก็ตาม  แต่ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา ได้นำรถโมบายเคลื่อนที่มาจอดที่บริเวณหน้าด่าน พร้อมแจกเอกสารเชิญชวนคนลงทะเบียนทำงาน 


    

ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ที่ตอนนี้กลับมาเปิดร้าน ค้าขายตามปกติ พบว่า ก่อนหน้านี้มีความกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้เชื่อมั่นว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์ใดๆ จึงกลับมาเปิดร้านค้าขาย หาเงินเลี้ยงชีพต่อไป

  

"เสรย ข๊วด" แม่ค้าชาวกัมพูชา ที่ค้าขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ในตลาดบ้านแหลมมากว่า 10 ปี บอกว่า ครั้งแรกเป็นห่วงกับสถานการณ์ แต่หลังจากปิดร้านไป 2-3 วัน เพื่อกลับไปอยู่บ้านฝั่งกัมพูชา มองว่า ไม่รู้จะทำอะไร ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ การกลับมาขายของที่ตลาดบ้านแหลมจะทำให้มีรายได้มากกว่า จึงตัดสินใจกลับมาเปิดร้าน เพราะตอนนี้ก็มีแรงงาน และคนเข้ามาในตลาดมากขึ้นแล้ว ส่วนครอบครัวก็ไม่ได้กังวลอะไร



"โปว ตัง" พ่อค้าเร่ชาวกัมพูชา บอกว่า ตอนนี้ในทุกๆวัน จะหาบแมลงทอดและลูกตะคร้อ ผักพื้นบ้านข้ามฝั่งมาขาย เพราะยังมั่นใจว่า ข้ามมาในฝั่งไทยจะยังคงทำมาหากินได้ มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว ตราบใดที่ประตูการค้าของทั้ง 2 ประเทศ ยังคงเปิดให้ข้ามผ่านแดน ก็ยังคงยึดอาชีพค้าขาย นำสินค้ามาขายในฝั่งไทยอยู่  

แม้ว่าตอนนี้รายได้จะลดลงจากเมื่อก่อนครึ่งต่อครึ่ง คือเคยขายของได้วันละ 700-800 บาท เหลือ 300-400 บาท แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีรายได้ เพราะหากกลับไปอยู่บ้าน ก็คงทำได้แต่เพียงปลูกผัก ปลูกข้าวโพดขาย แต่ตอนนี้ขอใช้เวลา 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ในการขายของเลี้ยงชีพก่อน - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat