ก.คลัง แถลงความชัดเจนแจกเงินหมื่นเฟสแรก
ก.คลัง แถลงความชัดเจนแจกเงินหมื่นเฟสแรก
กระทรวงการคลังแถลงความชัดเจนแจกเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจเฟสแรก จ่ายเป็นเงินสดตรงเข้าบัญชีกลุ่มเป้าหมาย 14.55 ล้านคน เตือนอย่าลืมผูกบัญชีกับพร้อมเพย์
(17 ก.ย. 67) กระทรวงการคลังนำโดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ นำทีม รัฐมนตรีช่วยและปลัดกระทรวง แถลงรายละเอียดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับกลุ่มเป้าหมายเฟสแรก 14.55 ล้านคน ที่คณะรัฐมนตรีเคาะจ่ายงบประมาณ 145,552 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือแล้ว
ในการดำเนินการเฟสแรก มีกลุ่มเป้าหมาย 14,555,240 คน แบ่งเป็นผู้พิการ(ไม่มีการจำกัดกรอบอายุ) 2,149,286 คน และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 12,405,954 คน ใช้งบประมาณรวม 145,555.40 ล้านบาท มาจาก งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2567 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ 122,000 ล้านบาท และรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 23,552.40 ล้านบาท
โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงินในเฟสแรกนี้ จะได้รับเป็นเงินสด โอนตรงเข้าบัญชีธนาคาร โดยที่ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่ม เพียงแต่ต้องมีบัญชีธนาคารของธนาคารใดก็ได้ ที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนเอาไว้ โดยจากกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้พิการจะมีบัญชีธนาคารที่มีการโอนเงินอุดหนุนให้อยู่แล้ว ส่วนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ พบว่ามีเพียง 1 ล้านกว่าคนที่ยังไม่ได้ทำการผูกบัญชี ซึ่งสามารถผูกบัญชีได้ที่ธนาคารหรือที่ตู้เอทีเอ็ม
การแบ่งจ่ายเงิน เนื่องจากระบบสามารถรองรับการโอนจ่ายได้วันละประมาณ 4 ล้านรายการ จึงจะมีการแบ่งจ่าย 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 - 30 ก.ย. นี้ โดยแบ่งเป็น
25 ก.ย. - กลุ่มผู้พิการ และกลุ่มเปราะบาง เลขบัตรลงท้ายด้วย 0
26 ก.ย. กลุ่มเปราะบาง เลขบัตรลงท้ายด้วย 1-3
27 ก.ย. กลุ่มเปราะบาง เลขบัตรลงท้ายด้วย 4-7
30 ก.ย. กลุ่มเปราะบาง เลขบัตรลงท้ายด้วย 8-9
หากผูกบัญชีกับเลขประจำตัวประชาชนไม่ทัน จะมีการจ่ายเงินให้อีก 3 ครั้ง คือวันที่ 22 ต.ค., 22 พ.ย., และ 22 ธ.ค. ขอให้ประชาชนเร่งผูกบัญชีให้เสร็จก่อนถึงวันโอนเงิน
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเผยว่า การจ่ายเป็นเงินสดนี้เป็นการแลกกับความเร็ว เรื่องดิจิทัลเป็นเรื่องที่เรากำหนดหลักเกณฑ์ ว่าเงินจะหมุนกี่รอบ ว่าจะมีร้านค้าที่กำหนดกี่ร้าน ฯลฯ แต่ว่าอันนั้นต้องแลกกับระยะเวลาในการพัฒนาระบบ ถ้าจำได้ก่อนหน้านี้ กำหนดการเดิมคือเงินลงปลายปี แต่วันนี้เราแลกกับเงินที่ลงเร็ว ยอมรับมีผลกับสภาพเศรษฐกิจเหมือนกัน และเชื่อว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายเร็ว
ทางด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ตอนนี้ทิศทางของเศรษฐกิจ ปีนี้มีการขยับเป้าจีดีพีขึ้น จาก 2.4% เป็น 2.7% โดยกระทรวงการคลังเห็นทิศทางที่ดี จึงต้องการรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ เป็นที่มาทำให้ทำไมเราถึงต้องใช้เงินเม็ดนี้ เข้าไปกระตุ้นในช่วงนี้ให้รวดเร็วกว่าช่วงปลายปีเพื่อทำให้มันเป็นแรงส่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาวขึ้น
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าในเฟสที่ 1 นี้ จะได้รับสิทธิตามผู้พิการ-กลุ่มเปราะบาง โดยที่ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่ม จะไม่มีการติดต่อจากภาครัฐส่งลิงก์ให้ทำรายการลงทะเบียนใดใดทั้งสิ้น ส่วนคนที่ลงทะเบียนในแอปทางรัฐไว้แล้ว ก็ขอให้เก็บแอปไว้เพื่อใช้บริการอื่นจากภาครัฐต่อไป
และตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. เป็นต้นไป สามารถตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงินในโครงการ ผ่านช่องทางหลักดังต่อไปนี้
1. เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th
2. เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th
3. เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check (เฉพาะคนพิการ)
4. แอปพลิเคชัน "รัฐจ่าย" (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)
5. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร. 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
1. คนพิการ
1.1 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พม. โทรศัพท์สายด่วน (Call Center) 1300
1.2 พก. โทร. 0 2354 3388 ต่อ 701 - 702 (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ)
1.3 ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการคนพิการแต่ละแห่งได้ทางเว็บไซต์ www.dep.go.th/th/contact-us/dsc-contactcenter
1.4 อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2.1 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0 2109 2345 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
2.2 Call Center กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2270 6400 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์