จยย.ย้อนศร โดน Fortuner พุ่งชนดับคาที่
จยย.ย้อนศร โดน Fortuner พุ่งชนดับคาที่
จยย.ย้อนศร โดน Fortuner พุ่งชนร่างปลิวหัวฟาดเสาไฟดับคาที่ ขณะ Fortuner เหินข้ามเกาะพลิกคว่ำพังยับ คนขับเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 23 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เอนกประสงค์ (SUV) ขับชนรถจักรยานยนต์ขี่ย้อนศร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนรถ SUV คู่กรณี เสียหลัก เหินข้ามเกาะพลิกคว่ำ ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ในซากรถ บนถนนรักศักดิ์ชมูล ขาออกเมือง ต.ท่าช้าง อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี ตำรวจสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ประสานอาสากู้ภัยสว่างกตัญญูจันทบุรี นำรถอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ก่อนที่แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลพระปกเกล้า ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เอนกประสงค์ SUV โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน XXข-XX31 กรุงเทพมหานคร อยู่ในลักษณะเสียหลักพลิกตะแคงอยู่อีกฝั่งของถนน สภาพพังยับเยิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บชาย 1 ราย เป็นคนขับติดอยู่ในซากรถ ทางอาสากู้ภัยฯได้ช่วยงัดช่องบานกระจกหน้า ก่อนช่วยกันนำร่างออกมาจากซากรถได้อย่างทุลักทุเล ในสภาพขาขวาฉีกขาดเป็นแผลฉกรรจ์ เสียเลือดมาก จากนั้นได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้า
ห่างกันประมาณ 30 เมตร พบผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย บัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อนายสุรเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว อ.เมืองจันทบุรี สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่ในเกาะกลางถนน ใต้โคนเสาไฟส่องสว่าง ผลการชันสูตรพบมีบาดแผลฉกกรรจ์ กะโหลกหน้าผากแตก ช่วงบริเวณหว่างคิ้ว
ขณะที่พบรถจักรยานยนต์ สีแดง ทะเบียน XXบ-XX97 จันทบุรี ล้มอยู่ในเลนซ้ายฝั่งถนนขาออกเมือง สภาพด้านถูกชนอย่างแรงจนพังยับเหลือครึ่งคัน นอกจากนี้ ยังพบมีร่องรอยจุดที่เกิดการชน ตลอดจนรอยรถ SUV เสียหลักชนกับขอบเกาะกลางนถนน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายภาพบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนของ ร.ต.อ.มารุต นิตย์จิน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง ร้อยเวรเจ้าของคดี เบื้องต้น พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุฝ่ายผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมkจากร้านสะดวกซื้อ ทางเข้าวัดศิริการ คาดว่า จะไปกลับรถในช่องยูเทิร์น ขณะที่ขี่ข้ามถนนเป็นจังหวะเดียวกันที่มีรถ SUV ขับสวนทางทางตรง จึงพุ่งชนเข้าอย่างแรง จนรถจักรยานยนต์และคนขี่กระเด็นไปคนละทิศละทางคนขี่เสียชีวิต ส่วน SUV เสียหลักชนขอบเกาะกลางถนน เหินตีลังกาข้ามไปอีกฝั่ง จนทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส
อย่างไรก็ตาม สาเหตุยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของตำรวจ ทั้งนี้จะได้ทำการตรวจสอบภาพวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และจากกล้องหน้ารถ เพื่อนำมาประมวลกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ และจากคำให้การพยานแวดล้อม เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป