น้ำท่วมปัตตานีวิกฤต โรงพยาบาลปิดชั่วคราว 4 แห่ง

(29 พ.ย. 67) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเข้าขั้นวิกฤติ ตั้งแต่ช่วง 3 ทุ่มของเมื่อคืนที่ผ่านมา มวลน้ำจากตอนบนจังหวัดยะลายังคงไหลมาในแม่น้ำปัตตานีต่อเนื่องก่อน ส่วนน้ำทะเลก็หนุนสูง ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำยังคงสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่ง ส่งผลให้พื้นที่ที่ติดกับริมแม่น้ำปัตตานีน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมขยายวงกว้าง ส่วนน้ำจากยะลาก็ไหลบ่าเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี จน ณ ขณะนี้ ทุกฝ่ายได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีน้ำที่ท่วมตั้งแต่เมื่อวานล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ระดับน้ำได้เพิ่มระดับสูงขึ้นจนทำให้ในตัวเมืองปัตตานีรวมไปถึงถนนจมอยู่ใต้น้ำ ถนนบางสายถูกปิดตายแม้กระทั่งรถใหญ่ก็ไม่สามารถผ่านไปมาได้ ร้านค้าถูกปิด บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำทะลักเข้าท่วม บางบ้านไม่ทันขนย้ายของถูกน้ำจมเสียหาย 3 ตำบลในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ตำบลอาเนาะรู ตำบลสะบารัง และ ตำบลจะบังติกอ ถูกน้ำท่วมหนักสุด

โดยตำบลจะบังติกอและตำบลสะบารังซึ่งติดแม่น้ำปัตตานี บ้านเรือนประชาชนจมอยู่ใต้น้ำ วัดระดับน้ำได้สูงกว่า 1 เมตร ขณะที่ถนนเส้นกะลาพอ ต.จะบังติกอ น้ำท่วมถนนจนรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว และอีกเส้นคือ ถนนยะรัง ต.อาเนาะรู รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้แล้วเช่นกัน อีกทั้งบ้านและร้านค้าของ 2 ฝั่งริมถนนทุกเส้น ประชาชนได้เอากระสอบทราบมากั้นไว้หน้าบ้านเพื่อเตรียมรอกั้นน้ำที่จะไหลบ่าเข้ามาเพิ่มในเมืองอีกในวันนี้

นอกจากนี้มีรายงานว่า โรงพยาบาลหนองจิก โรงพยาบาลยะหริ่ง โรงพยาบาลทุ่งยางแดง และ โรงพยาบาลแม่ลาน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำปัตตานี ต้องปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมสูงในตอนนี้

ขณะนี้ประชาชนเร่งตุนข้าวสารอาหารแห้ง เพราะการขนส่งเข้า 3 จังหวัดถนนถูกตัดขาด เนื่องจากเส้นทางสายปัตตานีหาดใหญ่ถูกน้ำท่วมสูงรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ประชาชนจึงซื้อของตุนไว้จนร้านสะดวกหลายสาขาอาหารแห้งหมดเกลี้ยง เพราะประชาชนคาดว่าระดับยังคงไม่ลดในเร็วนี้ จึงเลือกตุนอาหารไว้ก่อนดีที่สุด

อย่างไรก็ตามทางจังหวัดปัตตานีได้ประกาศเสียงตามสายให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยติดริมแม่น้ำเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชนิดตลอดเมื่อคืนที่ผ่านมา หากบ้านใดอยู่ในเกณฑ์ท่วมสูงมิดหัวให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำการอพยพทันที สำหรับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน จังหวัดปัตตานีมีพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยอยู่ที่ 9 อำเภอ 77 ตำบล 367 หมู่บ้าน 27,856 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนแล้ว 105,903 คน และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

ขอบคุณภาพจาก สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.ปัตตานี, สถานีตำรวจภูธรหนองจิก