ตั้ง 4 ข้อหาหนัก คุมดาบ ตม.เมา ทำร้าย-ชิงปืนนายตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่สาหัส
ตั้ง 4 ข้อหาหนัก คุมดาบ ตม.เมา ทำร้าย-ชิงปืนนายตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่สาหัส

ตร.สัตหีบ ตั้ง 4 ข้อหาหนัก คุมนายดาบ ตม.เมา ทำร้าย-ชิงปืนนายตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่จนสาหัส ส่งศาลพัทยา ด้านผู้บังคับบัญชาเผยเตรียมให้ออกจากราชการไว้ก่อน
(25 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณี เมื่อเวลา 02.00 น. คืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกด.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจกว่า 10 นาย ไประงับเหตุ ด.ต.กิตติศักดิ์ หรือ บอย (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี สังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ช่วยราชการสืบ ตม.3 มีอาการมึนเมา ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ร.ต.ต.พาสกร พาชูระเบียบนา หัวหน้าตู้ยามเตาถ่าน ด้วยการชกต่อยและจับศีรษะโขกพื้น จนเลือดคั่งในสมอง และฟันหน้าบนหักหนึ่งซี่ ต้องเข้ารักษาตัวใน รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ โดยด่วน ขณะเข้าระงับเหตุก่อความวุ่นวายภายในบ้านหลังหนึ่ง
นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังชิงเอาอาวุธปืนพกสั้นประจำกาย GLOCK 19 หลบหนีไปด้วย เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่ง ในชุมชนวัดเขาคันธมาทน์ หมู่ 9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งพบว่าถูกผู้ก่อเหตุได้ทุบกระจกหน้าบ้านแตกเสียหายด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ต่อมา เวลา 06.00 น.ทาง ด.ต.กิตติศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ พร้อมนำอาวุธปินที่ชิงไปมาส่งมอบคืน แต่ไม่พูดถึงชนวนเหตุที่ลงมือทำร้ายตำรวจด้วยกัน มีเพียงคำให้การของ น.ส.อนงค์ลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี อดีตแฟนสาว ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เสียหาย ระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตแฟนมาตามราวี และทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน จึงแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ แต่อดีตแฟนกับคิดว่า ตำรวจที่มาเป็นเพียงตำรวจอาสา ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง อีกทั้งเรื่องก็เกิดในบ้าน คาดว่าอาจทำให้อดีตแฟนโกรธจนลงมือทำร้ายนายตำรวจจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ล่าสุด มีรายงานว่า พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน เจ้าของคดี ได้แจ้ง 4 ข้อหาหนัก กับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับ 3 ข้อกล่าวหา ปฏิเสธข้อหา "ชิงทรัพย์" เจ้าหน้าที่คุมตัวส่งศาลจังหวัดพัทยา ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย โดยข้อหาที่ถูกแจ้งประกอบด้วย
- บุกรุกเข้าไปกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้าย ในเวลากลางคืน
- ทำให้เสียทรัพย์
- ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
- ชิงทรัพย์ (อาวุธปืน) เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที โดยให้คณะกรรมการลงพื้นที่ประสานงานกับตำรวจ สภ.สัตหีบ ซึ่งหากได้ข้อเท็จจริงว่า ทำร้ายร่างกายตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้เสียหาย และชิงทรัพย์อาวุธปืนจริง จะพิจารณาให้ดาบตำรวจนายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อนทันที แต่เท่าที่เห็นภาพการทำร้ายร่างกายตำรวจ แค่ภาพนี้ก็สามารถพิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้แล้ว - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
