รวบ 'กิ๊บ' ประธานเพื่อน GUN สำคัญเสมอ ผลิต-ขายปืนเถื่อนผ่านกลุ่มปิดโซเชียล
รวบ 'กิ๊บ' ประธานเพื่อน GUN สำคัญเสมอ ผลิต-ขายปืนเถื่อนผ่านกลุ่มปิดโซเชียล
สืบนครบาลบุกทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายปืนเถื่อนกลางกรุง จับกุมผู้ต้องหาและยึดอาวุธปืน 19 กระบอก
วันที่ 11 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วยทีมสืบสวน สามารถจับกุมตัว นายโชติธนภัทร์ หรือ "กิ๊บ" อายุ 39 ปี ประธานกลุ่ม "เพื่อน GUN สำคัญเสมอ" ที่ลักลอบผลิตและจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนผ่านกลุ่มลับในโซเชียลมีเดีย ภายหลังจากการสืบสวนจนพบหลักฐานแน่ชัด เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นสถานที่และจับกุมตัวได้ที่โครงการเอื้ออาทรลาดกระบัง 2 แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า " มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ”
จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนจำนวน 19 กระบอก ซึ่งเป็นปืนบีบีกันที่ดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนจริงได้ รวมถึงอาวุธปืนประเภทต่างๆ ที่ผลิตเองในไทย นอกจากนี้ ยังพบเครื่องกระสุนปืนหลากหลายขนาด และชิ้นส่วนอาวุธปืนจำนวนมากที่ใช้ในการผลิตปืนเถื่อนพร้อมของกลาง ดังนี้
1. ปืนบีบีกันแปลง ขนาด.38 จำนวน 5 กระบอก ในรถยนต์โตโยต้า สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน กง 68xx เพชรบูรณ์
2. อาวุธปืนหักลำไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 12 กระบอก พบในถุงพลาสติก วางอยู่ในตู้ด้านหลังห้องพัก
3. อาวุธปืนหักลำไทยประดิษฐ์ ขนาด 410 จำนวน 2 กระบอก วางอยู่ในตู้ด้านหลังห้องพัก
4. กระสุนปืน .22 แมกนั่ม จำนวน 35 นัด
5. กระสุนปืน ขนาด .38 spl จำนวน 60 นัด
6. กระสุนปืนขนาด .380 acp จำนวน 50 นัด
7. กระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 3 นัด
8. กระสุนปืนลูกซอง ขนาด 20 จำนวน 7 นัด
9. ชิ้นส่วนลูกโม่ ขนาด .38 spl จำนวน 9 ชิ้น
10. ชิ้นส่วนลำกล้อง ขนาด .38 จำนวน 12 ชิ้น
11. ชิ้นส่วนอาวุธปืน จำนวน 22 ชิ้น
12.ปะกับด้ามปืน จำนวน 5 ถุง
ของกลาง ลำดับ 4-12 พบวางซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้าภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดของกลางทั้งหมดและควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายโชติธนภัทร์สารภาพว่า ตนเคยถูกจับกุมในข้อหาลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนมาแล้วหลายครั้ง และถึงแม้จะอยู่ในระหว่างการประกันตัว ก็ยังคงลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่ารายได้จากการขายปืนเดือนละประมาณ 60,000-100,000 บาท
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า อาวุธปืนที่ตรวจค้นพบนั้น เป็นต้นตอที่คนร้ายจะนำไปก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ส่งผลร้ายกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ในสังคมได้ ส่วนผู้ที่ลักลอบขายอาวุธปืนนั้นหากซื้อขายอาวุธปืนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ผู้ขายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท หากประชาชนมีเบาะแสการลักลอบขายปืน สามารถติดต่อแจ้งมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอดเวลา