ลูกจิตเวช ทุบ-บีบคอแม่ดับคามือ

(27 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เพจนักข่าวนอกจอ ได้โพสต์ถึงเหตุสลด ลูกชายฆ่าแม่วัย 68 ปี ที่ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ หลังจากโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้มาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บ้างก็ว่า ยาบ้าแน่นอน , กลียุคมันมาเร็วเกินไป คำว่าบุญคุณ พระคุณ ต่อไปจะไม่มีแล้ว จิตใจคนจะเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ ทำร้ายพ่อแม่พี่น้องเหมือนไม่มีจิตใจ , ยาของรัฐบาลจ้า และ คนป่วยของรัฐ

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ทราบว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริง ที่มีลูกชายวัย 40 ปี ติดสุราเรื้อรัง มีการป่วยจิตเวช อาศัยอยู่กับแม่ ก่อนเมาสุราแล้วเกิดอาการหลอนทางจิตประสาท ดื้อไม่ทานยาต่อเนื่องหลายวัน หลังจากดื่มสุราแล้วเกิดเอาการหลอน จึงใช้ของแข็งทุบศีรษะแม่ ก่อนบีบคอแม่จนเสียชีวิตคามือ หลังก่อเหตุเดินไปบอกญาติให้มาดูศพแม่ ก่อนหลบหนีไป ไม่นานก็ย้อนกลับบ้านมาอีกครั้ง ตำรวจจึงควบคุมตัวเอาไว้ได้

ด้าน พ.ต.อ.เกียรติกร แสนแก้ว พนักงานสวน สภ.สมเด็จ ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมจันทร์ ภูดี รอง ผกก.สส.และกำลังตำรวจชุดสืบสวน รวมทั้งอาสากู้ภัยอโสกสมเด็จ ซึ่งที่เกิดเหตุ บ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ 1XX หมู่ 10 ต.หมูม่น อ.สมเด็จ ที่ห้องชั้นล่างพบศพนางสี หรือ นางปราณี (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี สภาพมีบาดแผลบริเวณใต้คางและโหนกแก้มขวา มีร่องรอยถูกกระแทกด้วยของแข็ง ตามลำคอด้านขวามีรอยเขียวช้ำ คาดว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง

สอบถาม นายสว่างจิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี อาเขยของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ขณะที่นอนหลับอยู่บ้านในบ้าน นายต๋อย หรือนายธีระพงษ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุ ได้วิ่งเรียกให้ไปดูยายสี เพราะไม่แน่ใจว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่ จากนั้นนายต๋อย ก็ขี่จักรยานยนต์ไปหลบซ่อนตัวที่เถียงนากลางทุ่งท้ายหมู่บ้าน แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่นั้น นายต๋อยก็ได้กลับมาที่บ้าน เมื่อชาวบ้านเห็นจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ และถูกควบคุมเอาไว้ได้ ขณะที่นายต๋อยนั่งอยู่แคร่ใต้ถุนบ้าน

ขณะที่ นายต๋อย ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าแม่บังเกิดเกล้าจริง โดยใช้ของแข็ง (ไม่มีรายงานที่แน่ชัดว่าเป็นอะไร) ตีเข้าที่ปลายคาง และโหนกแก้มขวา ก่อนที่จะบีบคอจนเสียชีวิต ต่อมาจึงตัดสินใจไปบอกนายสว่างจิตร ญาติที่มีศักดิ์เป็นอาเขย ให้มาดูศพ 

ด้านนายกิตติ (สงวนนามสกุล) พี่ชายคนโตของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่า น้องชายเป็นน้องแฝดชาย-หญิง คนสุดท้องของแม่ ก่อนนี้น้องชายไปทำงานรับจ้างที่ จ.ระยอง แต่หลังจากที่ทราบข่าวว่าน้องชายป่วย จากสาเหตุดื่มสุราหนัก จนป่วยทางจิตประสาท จึงได้ไปรับตัวมาดูแลและรักษาตัวที่บ้านเกิด โดยอาศัยอยู่กับแม่และบุตรสาวของน้องชายคนก่อเหตุ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลานสาวซึ่งก็คือลูกสาวของน้องชาย ไปทำงานที่ต่างจังหวัด จึงมีเพียงนายต๋อยอาศัยอยู่กับแม่ตามลำพัง ตนก็จะแวะเวียนมาเยี่ยมแม่อยู่เป็นประจำ กระทั่งทราบว่า น้องชายมาก่อเหตุสลดดังกล่าว

ส่วนมูลเหตุนั้น ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวน ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เนื่องจาก นายต๋อย ผู้ก่อเหตุ ไม่ยอมทานยารักษาอาการป่วยจิตเวชมาหลายวัน จึงเกิดอาการหลอนพูดจายังไม่รู้เรื่อง คาดว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากประสาทหลอน เนื่องจาก ทานยาจากอาการป่วยจิตเวชไม่ต่อเนื่อง หรือหยุดยาไปหลายวัน เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา "ทำร้ายร่างกายผู้อื่น(บุพการี)จนถึงแก่ความตาย" ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-20 ปี - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน