ลุงขี้ยาเหวี่ยงหลาน 2 ขวบกระแทกพื้นดับสลด อ้างบันดาลโทสะ

(4 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.ท่าแพ อ.ท่าแพ จ.สตูล ร.ต.อ.นุกูล จิตรเพชร ร้อยเวรสอบสวน ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ในการสอบปากคำนายอับดุลอาซีด (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุทำร้ายหลานชายวัย 2 ขวบ โดยเหวี่ยงร่างลงพื้นปูนภายในบ้าน พื้นที่หมู่ 3 บ้านคลองลิดี ต.สาคร อ.ท่าแพ จนเสียชีวิต เหตุเกิดวานนี้ (3 มี.ค.68) โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า เด็กมีอาการสมองบวมและมีเลือดคั่งในสมอง 

โดยผู้ต้องหา รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้ให้การว่า ขณะเสพยาบ้า หลานชายได้เข้ามาวุ่นวาย ทำให้เกิดความโมโห จึงจับเอวเด็กเหวี่ยงลงพื้นอย่างแรงถึง 2 ครั้ง และยอมรับว่า ตั้งใจทำเพื่อให้เด็กเสียชีวิต  

หลังการสอบสวนเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมนายอับดุลอาซีด เพื่อนำเข้าห้องขัง ขณะที่สื่อมวลชน มีโอกาสซักถามผู้ต้องหาว่า "ลุงรักหลานหรือไม่ และตั้งใจที่จะฆ่าน้องหรือเปล่า" ผู้ต้องหาได้พูดผ่านลูกกรงว่า "รู้สึกเสียใจ ไม่ได้ตั้งใจและอยากจะขอโทษ" พร้อมทั้งบอกว่า "รักหลานทุกคน และรักหลานคนนี้มาก" ก่อนที่จะพูดจาวกวนขณะถูกนำตัวเข้าห้องขัง

นางฟาตีมะ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี แม่ของเด็กที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า เด็กที่ตายเป็นลูกชายคนที่ 5 ซึ่งเป็นลูกของตนกับสามีคนเก่า อายุเพียง 2 ขวบ หลังจากแยกทางกับสามีคนที่ 4 ตนได้ย้ายมาอยู่กับสามีคนปัจจุบันที่บ้านเกิด โดยลูกชายเป็นเด็กน่ารัก ร่าเริงและขี้อ้อนตลอดเวลา ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาซึ่งเป็นพี่ชายของสามีใหม่ มีศักดิ์เป็นลุง จะรักและเอ็นดูลูกชายของตนมาก มักจะซื้อขนมให้เด็กเสมอ

"ไม่ทราบเลยว่าในวันเกิดเหตุมีอะไรเกิดขึ้น เพราะตอนนั้นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ รู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากให้ผู้กระทำผิดรับโทษให้ถึงที่สุด เพราะลูกไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แม้จะทราบว่าพี่ชายของสามีติดยาบ้า แต่ไม่เคยคิดว่าจะลงมือทำร้ายเด็กได้ถึงเพียงนี้"

ข่าวที่คล้ายกัน :

• แจ้งจับลูกชายขี้ยา คว้าสากกะเบือทุบหัวแม่ปางตาย

ด้านแม่ของผู้ต้องหา เปิดเผยด้วยความเศร้าว่า ลูกชาย(ผู้ต้องหา) เริ่มมีพฤติกรรมเกเรตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี และเคยใช้มีดไล่ฟันทั้งตยกับสามี (ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคมะเร็ง) เพียงเพราะไม่ยอมให้เงินไปซื้อยาบ้า จนนำมาสู่เรื่องราวกับหลานชาย ตนรู้สึกเสียใจมาก ว่าทำไมทำกับเด็กได้ลงคอ แม้หลานชายจะมาอยู่ด้วยกันเพียงแค่ 3 เดือน แต่ก็มีความผูกพันธ์ รู้สึกรักและเอ็นดูหลาน น่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตแบบนี้

ขณะที่ พ.ต.อ.ปรีชา เพชรรัตน์ ผกก.สภ.ท่าแพ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหามีประวัติถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้วถึง 7 ครั้ง และเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลท่าแพ เมื่อปี 2566 แต่ขาดการรับยาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลับมาเสพยาบ้าอีกครั้ง สำหรับคดีนี้ ได้ตั้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" ส่วนร่างของเด็ก ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย และขอรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว

ล่าสุด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยสำนักงานยุติธรรม จ.สตูล ได้เข้าพบแม่ของเด็กและพี่น้องอีกหนึ่งคน ที่ยังอยู่ในความดูแล โดยพบว่า แม่ยังสามารถเลี้ยงดูบุตรต่อไปได้ และจะให้ความช่วยเหลือ เยียวยากรณีบุตรเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายดังกล่าว - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน