เคาะโลงบอกลูก-เมีย พรุ่งนี้เตรียมเจรจาสาว BMW รอบ 2

เคาะโลงบอกลูก-เมีย พรุ่งนี้เตรียมเจรจาสาว BMW รอบ 2

74207 ธ.ค. 67 18:32   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

หนุ่มใหญ่เคาะโลงบอกลูก-เมียเหยื่อสาว BMW ซิ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ พรุ่งนี้จะเจรจารอบที่ 2 กับคู่กรณี - ญาติบอกเรียก 25 ล้าน เพื่อเป็นคดีตัวอย่าง ลั่นจะจนหรือรวยต้องเท่ากันด้วยกฎหมาย

(7 ธ.ค. 67) บ่ายวันนี้ นายประกฤษณ์ หรือติ๊ก อายุ 50 ปี สามีและพ่อของผู้เสียชีวิตแม่ลูก 3 ศพ  พร้อมด้วย นางยุพา อายุ 63 ปี, นายสุวิทย์ อายุ 60 ปี, และนางนันทพร อายุ 52 ปี ทั้งหมดเป็นญาติผู้เสียชีวิต เดินทางไปที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ศาลา 5 ซึ่งเป็นที่เก็บศพของ 3 แม่ลูกคือ นางเย็นจิตร อายุ 52 ปี  นายกฤตเมธ หรือน้องโก้ อายุ 16 ปี และ ด.ญ.บุณยานุช อายุ 14 ปี 


โดยนายประกฤษณ์ เข้าไปเคาะโลงเป็นคนแรก บอกว่า พรุ่งนี้จะเดินทางไปสภ.เมืองชุมพร เพื่อพบคู่กรณีนัดไกล่เกลี่ยมาเพื่อบอกให้รับรู้ ขอผลการเจรจาไกล่เกลี่ยให้ลุล่วงราบรื่นด้วยดี จะได้รับมาพวกเรากลับเป็นกำลังใจให้พ่อด้วย พร้อมกับบอกกล่าวลูกเมีย “อย่าไปกวนพี่ๆกู้ภัย อยู่ที่นี่อย่างสงบไปก่อนนะ”


หลังจากนั้นนายสุวิทย์ ผู้เป็นลุง จุดธูปบอกกล่าว ลั่นพูดออกมาว่าอย่างไรก็ตามการเจรจาไกล่เกลี่ยให้คดีผ่านไปด้วยดี ลูกจะออกมาอาละวาด รบกวนก็ไม่เป็นไรทั้งเย็น โก้ มีน แต่ขอให้ไปฝั่งนู้น(คู่กรณี)ช่วยดลจิตดลใจให้เขายอมรับความผิด อยู่ที่นี่ขอให้มีความสุขแล้วเราจะกลับมารับ ไม่ต้องเป็นห่วงแม่(แม่สามีที่นอนติดเตียง)ไม่ต้องเป็นห่วงสามี พวกพี่ๆจะช่วยกันดูแล” ตามด้วยนางยุพาและนางนันทพรจุดธูปไหว้บอกกล่าวตามลำดับ


ต่อมานายประกฤษณ์และนายสุวิทย์  ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว โดยนายประกฤษณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดสร้างความระทึกนั้นหลังเดินทางมาจุดธูปบอกสรุปแม่ลูกก็เชื่อฟังดี กู้ภัยไม่เจออีกเลยสงบเงียบดี สำหรับพรุ่งนี้จะมาการเจรจาตนไม่มีความมั่นใจ เพราะดูจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้สัมผัสฝ่ายคู่กรณี เห็นว่าเขาไม่มีความจริงใจ คิดว่าไม่ให้ตามคำเสนอไป หรือเสนอมาให้น้อย ตามที่เรียกไป 25 ล้าน ลูกเมียไม่สามารถประเมินค่าได้ ถ้าให้มาตามที่ตนไม่พอใจ ตนไม่รับแน่นอน  ความสงสารของตนที่มีต่อคู่กรณีน้อยลงเพราะการกระทำที่ผ่านมาไม่มีความจริงใจ แต่ถ้าเสนอจนพอใจตนเองก็อยากจะจบในส่วนนี้ เพราะลูกเมียไม่อยู่อยู่ตรงนี้มีความกังวล อยู่บ้านก็ไม่สบายใจ


ด้านนายสุวิทย์ กล่าวเสริมว่า สิ่งที่กลัวที่สุดคือ อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมส่วนเงินเยียวยาอาจจะยากและต้องใช้เวลา  อย่างไรก็ตามฝากผ่านนักข่าวเลยว่า เคสนี้ตัวอย่างของประเทศเพราะที่ผ่านมาจังหวัดชุมพรเรา ถ้ารถใหญ่ ปิ๊กอัพ หรือรถเก๋ง อะไรก็แล้วแต่ชนมอไซค์สุดท้ายมอไซค์จะไม่ได้รับการเยียวยา ที่พูดเพราะเคยมีประสบการณ์ญาติก็เคยเจอมา ใช้สำนวนเดียวกันสุดท้ายรถเบี่ยงเข้ามาคดีไปพลิกในชั้นศาลไม่เคยได้รับการเยียวยา 


นายสุวิทย์  กล่าวอีกว่า ในกรณีเคสนี้เป็นตัวอย่างของประเทศถ้าเป็นมอไซค์ต่างๆ ซึ่งเป็นคนจน จะกลายเป็นว่าคนรวยจะรังแกคนจน ฝากถึงผู้มีอำนาจในเรื่องของข้อกฎหมายช่วยดูแลเป็นกรณีพิเศษสงสารผู้ที่ถูกกระทำ และไม่ได้รับความเป็นธรรม  ตอนพูดกับผู้เสียหายดีหมดสำนวนต่างๆ ไปซ่อนอยู่ข้างใน เรื่องของเลี้ยวปาดหน้าบ้าง เบี่ยงเข้ามา แฉลบเข้ามาบ้างละสุดท้ายคดีมันพลิก มีอยู่เยอะเรื่องนี้มีความกังวลที่สุด 


อีกเรื่องเงินเยียวยากับเงินตามสิทธิ์ พ.ร.บ.มันคนละตัวบท จะมาพุดว่าขอรวบรวมเงิน พ.ร.บ.ก่อนแล้วค่อยเติมเต็มให้มันไม่เป็นธรรมกับผู้เสียหาย อยู่ดีๆ คุณมาคร่าชีวิตลูกเมียเขาอย่างนี้เรียกไป 25 ล้าน ตนว่า 100 ล้านยังไม่ได้เลย ครอบครัวผู้เสียหายไม่ได้เดือดร้อนทางการเงินเขาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พอเลี้ยงดูแลครอบครัวตัวเองได้ เรียกไปเพื่อเป็นบรรทัดฐานทางสังคม คุณต้องชดใช้เยียวยาใช้กฎหมายเข้ามาเพื่อพลิกคดีให้ได้จากดำเป็นขาว ตนว่าไม่ถูกต้อง


พรุ่งนี้มีการนัดหมายกับคู่กรณีทางผู้เสียหายทราบว่ามีทีมทนายจากรายการโหนกระแสเดินทางเข้ามาดูแลให้แต่ขณะนี้ยังไม่เจอใครเลย  เรื่องนี้ถ้าไม่สามารถเยียวยาได้ ขณะนี้มีแต่กระดาษยังไม่เห็นตัวเงินก็ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและต้องรับโทษสูงสุดว่ากันไปตามขบวนการข้อกฎหมายเพื่อสร้างบรรทัดฐาน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง