แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญ 6 ล้านบาท

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญ 6 ล้านบาท

38714 ม.ค. 68 15:26   |     Tum1

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญ 6 ล้านบาท พบพฤติการณ์คล้ายแก๊งหลอก “ชาล็อต ออสติน”

(14 ม.ค.68) นายนาคร ศิลาชัย หรือ เปิ้ล นาคร นักแสดง พร้อมนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หลังครอบครัวคนใกล้ชิดถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงิน 6 ล้านบาท

"เปิ้ล นาคร" เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นกับลุงอายุ 71 ปี และ ป้า อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่ของน้องชายคนสนิทของตน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค.68 ที่ผ่านมา มีสายโทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของคุณลุง อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่า มีชื่อคุณลุงเกี่ยวพันกับคดีฟอกเงิน และทำการขอตรวจสอบบัญชี ซึ่งระหว่างการพูดคุยโทรศัพท์สายดังกล่าว ก็มีคุณป้าเข้ามาร่วมพูดคุยด้วย 


จากนั้น ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็สั่งให้คุณลุงและคุณป้า ขังตัวเองอยู่คนละห้อง โดยมีการข่มขู่ว่าห้ามบอกใคร และมีตำรวจหญิงมาร่วมสอบสวน 1 คน โดยเป็นการสอบสวนแยกกัน ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันจนถึง 2 ทุ่ม จากนั้น ได้มีการสั่งให้ทั้งคุณลุงและคุณป้า ทำการโอนเงินทุกบัญชีไปให้มิจฉาชีพตรวจสอบทั้งหมด รวมกัน 10 ครั้ง (ลุง 10 บัญชี , ป้า 1 บัญชี ) เป็นจำนวนเงินกว่า 6,000,000 บาท 

มิจฉาชีพ อ้างว่า หากตรวจสอบเสร็จจะโอนเงินคืน จนกระทั่งพบว่าทั้งคุณลุงและคุณป้า เหลือเงินติดบัญชีสุดท้ายเพียง 300,000 บาท คุณป้าจึงเกิดความสงสัยว่าถูกหลอก จึงมีการพูดคุยกับตัวคุณลุง และตัดสินใจวางสาย ก่อนที่จะไปปรึกษากับลูกชายและเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รวมถึงแจ้งความออนไลน์ที่ 1441 ด้วย



ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้น ได้มีการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายมีการแจ้งความกับ สน.ราษฎร์บูรณะ และทาง สน.ราษฎร์บูรณะ ได้ประสานมายังที่ศูนย์ 1441 ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจไซเบอร์จะต้องมีการประสานกับต้นทางเพื่อหาแนวทาง และหากพบว่า คดีมีความเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน ก็จะโอนคดีมายังตำรวจไซเบอร์เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ เบื้องต้น พบมีแผนประทุษกรรมเดียวกันกับที่หลอก น.ส.ชาล็อต ออสติน แต่จะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง