รวบ "ทหารเกณฑ์" แก๊งคอลฯ อ้างตัวเป็น ร.ต.ท.วิดีโอคอลหลอกเหยื่อ

รวบ "ทหารเกณฑ์" แก๊งคอลฯ อ้างตัวเป็น ร.ต.ท.วิดีโอคอลหลอกเหยื่อ

63506 ก.พ. 68 20:04   |     Tum1

รวบ "ทหารเกณฑ์" แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็น ร.ต.ท.วิดีโอคอลหลอกเหยื่อ 151 เคส เสียหายกว่า 800 ล้านบาท สารภาพสมัครใจไปทำ เพราะรายได้ดี

(6 ก.พ.68) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) พร้อมตำรวจ บก.สอท.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายอนุวัต (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา กรณีอ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร โทรศัพท์หลอกผู้เสียหายเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาเสพติด จึงให้โอนเงินมาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เป็นเหตุให้ผู้เสียหาย 151 คน รวมมูลค่ากว่า 800,000,000 บาท โดยเคสใหญ่ ๆ เป็นผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ต่อมา พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถติดตามจับกุมนายอนุวัต ได้ที่บริเวณค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย 


เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นแอดมินเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อปี 2566 ก่อนจะกลับมาประเทศไทย และถูกชักชวนให้กลับไปทำเว็บไซต์อีกครั้ง แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับมอบหมายให้ทำงานในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีทั้งคนไทยและคนจีนเป็นผู้ควบคุม มีบทสคริปต์ที่ใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยจะได้รับค่าตอบแทนเดือนละประมาณ 50,000 บาท รวมทั้งได้ส่วนแบ่งอีกร้อยละ 3-5 % ของยอดเงินที่หลอกได้ในแต่ละครั้ง ทำให้มีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท 

ก่อนจะกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อเกณฑ์ทหารและถูกจับกุมและที่สุด สำหรับนายอนุวัต จะอ้างตัวเป็น ร.ต.ท.ธีระ รองสารวัตรฝ่ายปราบปราม สภ.เมืองมุกดาหาร ซึ่งมีตัวตนอยู่จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาจะรับหน้าที่เป็นสายที่ 1 แต่พอเริ่มมีความชำนาญก็ขยับขึ้นไปเป็นสายที่ 2 



สำหรับ สายที่ 1 ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะทำหน้าที่โทรศัพท์ไปหลอกผู้เสียหายก่อน ชวนผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วโอนสายไปหา สายที่ 2 ให้ปลอบใจ คลายความกังวล ซึ่งจะแต่งตัวเป็นตำรวจ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ก่อนจะส่งไปยังสายที่ 3 เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงิน

โดยผู้ต้องหารายนี้ อยู่ในแก๊ง "พูลิ กาสิโน" ที่จะไม่กล้าหลอกระวังผู้จะหายหลากหลายรูปแบบ ทั้งหลอกให้หลงรัก หลอกให้กลัว หลอกให้ร่วมลงทุน หลอกไปทำงาน หลอกให้กดลิงด์เพื่อดูดเงิน โดยฐานทัพหลักจะอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยจากการตรวจสอบยังไม่พบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ตำรวจสอบสวนกลางต้องการตัว


เบื้องต้น พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันฟอกเงิน , อั้งยี่ซ่องโจร , มีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ" ซึ่งจะดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้เสียหายทุกกรณี - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง