รุ่นพี่อ้างโดน “น้องเติ้ล-พ่อ” โทรข่มขู่ก่อน - มหาวิทยาลัยประชุมด่วน

(16 ส.ค. 67) จากกรณีที่ นายโต้ง อายุ 54 ปี และ น.ส.ก้อย อายุ 39 ปี พ่อและแม่ของ น้องไตเติ้ล อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จ.นนทบุรี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรีเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่รับน้องโหดและทำร้ายลูกชาย หลังจากลูกชายไปขอลาออกจากการเข้าระบบการรับน้อง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ห้องไอซียู รพ.กรมชลประทาน

ขณะที่นายโต้ง ก็ถูกกลุ่มนักศึกษาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บด้วย โดยนายโต้งระบุว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้ยภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ต่อหน้ารองอธิการบดี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ไม่เกรงกลัว จนเมื่อเกิดเหตุแล้วทางอาจารย์พยายามเข้ามาห้ามและปิดประตูมหาวิทยาลัย แต่ก็พบว่าผู้ก่อเหตุเกือบ 20 คนหนีหายไปได้ทั้งหมด เหลือแค่ 2 คนเท่านั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายเอ (นามสมมุติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยดังกล่าว อายุ 22 ปี เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ และเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับผู้ก่อเหตุ ได้นำหลักฐานคลิปเสียงที่บันทึกไว้ในวันที่ 14 ส.ค. ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน มอบให้ผู้สื่อข่าว

โดยคลิปดังกล่าวเป็นเสียงสนทนา ขณะที่นายเติ้ลและคุณพ่อได้โทรมาท้าทาย ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย พร้อมขู่จะเข้าไปตัดเศียรขององค์พ่อพระวิษณุกรรมที่หน้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิทยาลัย นักศึกษาทุกคนกราบไหว้

นายเอเล่าอีกว่า นายเติ้ล คนเจ็บ ได้เข้ามาขอเข้าร่วมรับน้องกับตน ซึ่งการรับน้องนั้นไม่ได้เกี่ยวกับทางมหาวิทลัยแต่อย่างใด ไม่ได้มีการบังคับ หรือข่มขู่ว่าต้องมาเข้ารับน้อง ในการรับน้องจะรับน้องกันนอกสถานที่ไม่ใช่พื้นที่มหาวิทยาลัย โดยจะมีการลุกนั่ง วิดพื้นตามปกติ ในประเด็นที่พ่อแม่น้องคนเจ็บให้ข่าวว่ามีการทำร้ายร่างกายทุกวัน ให้น้องกินดิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง

ส่วนสาเหตุที่มีปัญหากันตนทราบว่าวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ทางน้องเติ้ลได้ออกจากการรับน้อง เท่าที่ตนรู้น่าจะมีปัญหาส่วนตัวอะไรสักอย่าง ตนก็ได้พูดคุยถามไถ่แต่ทางน้องยืนยันที่จะออกจากการรับน้อง ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ทางเพื่อนๆ ตนจึงขับรถไปส่งน้องที่บ้านและก็แยกย้ายกันตามปกติ

ต่อมาวันที่ 14 ส.ค. ทางน้องเติ้ลและพ่อของน้องเติ้ล ได้โทรมาด่าทอ โดยโทรมาทางโทรศัพท์เพื่อนของตนมีการด่าไปถึงบุพการี โดยการใช้คำพูดว่า “เดี๋ยวกูจะไปเตะหน้าพวกมึงรอเลย” และมีอีกหลายประโยคตามคลิปเสียงที่ตนใช้เป็นหลักฐาน และมีการท้าให้ตนเข้าไปหาแต่ตนก็ไม่ได้ไป ทั้งนี้ยังพูดขู่ต่ออีกว่า “พรุ่งนี้เดี๋ยวกูเข้าไปมึง อยู่มอใช่ไหม มึงเตรียมคนมารอรับศพพวกมึงเลยเดี๋ยวกูเข้าไป” ซึ่งโทรหาแบบนี้หลายสายแทบทั้งวัน แต่พวกตนไม่ได้ไปตามที่พวกเขานัด มีการท้าทายกันไปมาตามคลิป รวมถึงนายเติ้ลมีการข่มขู่จะบุกเข้ามาตัดเศียร องค์พ่อพระวิษณุกรรมที่ทุกคนต่างกราบไหว้บูชาหน้ามหาลัยอีกด้วย ทำให้ทุกคนก็ไม่พอใจ เพราะถูกด่าขู่ฆ่าต่างๆ นานา

จนล่าสุดที่เกิดเหตุ(15 ส.ค.) เวลาประมาณ 12.00 น. นายเติ้ลรุ่นน้องคนดังกล่าวก็ได้เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยพร้อมกับพ่อแม่ โดยได้เดินขึ้นไปคุยกับอาจารย์บนตึก จากนั้นหลังพูดคุยเสร็จ ทางนายเติ้ล และพ่อก็ได้เดินลงมาจากอาคารแล้วก็พบเจอกับพวกตนที่นั่งเล่นอยู่ใต้อาคารประมาณ 10 กว่าคน พอพบหน้ากันทางกลุ่มเพื่อนตนก็ได้พูดคุยประเด็นที่มีปัญหากันผ่านทางโทรศัพท์ ก่อนจะเกิดอารมณ์ เพื่อนตนมีการชกต่อยไป

ตอนนั้นตนอยู่ในเหตุการณ์เท่าที่เห็นและจำได้มีเพื่อนตนประมาณ 1-2 คน ที่เป็นคนลงมือทำร้ายจริงๆ  อาจมีมากกว่านั้นแต่ไม่เกิน 3-4 คนอย่างแน่นอน เพราะที่เหลือวิ่งเข้าไปห้ามกันหมด ซึ่งตามข่าวที่มีการบอกว่ารุมทำร้าย 20 คนนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนเป็นคนไปช่วยห้าม ซึ่งสาเหตุของเรื่องนี้ทั้งหมดในมุมมองของตนนั้นทางกลุ่มเพื่อนตนน่าจะทนไม่ไหวกับคำพูดท้าทายขู่ฆ่าของนายเติ้ล และพ่อที่โทรมาผ่านโทรศัพท์มือถือก่อนเกิดเหตุ

ขณะที่เช้าวันนี้ เพจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ RUS ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวระบุว่า “จากกรณีเหตุการณ์นักศึกษารุ่นพี่ใช้ความรุนแรงกับนักศึกษารุ่นน้องและผู้ปกครองจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567

อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง และเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการของมหาวิทยาลัย และกฎหมายอย่างถูกต้อง เป็นธรรม พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย และจะรายงานผลความคืบหน้าต่อไป  ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอแสดงความเสียใจกับนักศึกษาและครอบครัว ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างสูง”