สุดโหด! ลวงหนุ่ม 32 ฆ่าอำพรางให้เกิดอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท
สุดโหด! ลวงหนุ่ม 32 ฆ่าอำพรางให้เกิดอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท

สุดโหดแก๊งชายฉกรรจ์! ลวงหนุ่มวัย 32 ปีฆ่าอำพรางให้เกิดอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 14 ล้านบาท อึ้งพบรถคันเดียวทำ พ.ร.บ.12 ฉบับ รวม 3 คัน 22 ฉบับ ล่าสุดหนึ่งในผู้ต้องหารับสารภาพแล้ว
(9 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ได้เป็นตัวแทนกลุ่มบริษัทประกันภัยเอกชน ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต ผู้บังคับการ ภ.จว.สกลนคร ให้ตรวจสอบกรณี เมื่อวันที่ 10 ก.พ.68 ช่วงค่ำ นายวิเชียร (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ประสบอุบัติเหตุ ตกจากรถยนต์กระบะ แล้วถูกรถยนต์อีก 2 คัน ที่ชักลากจูงกันมาขับตามหลังชน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กม.ที่ 15 ต.ธาตุ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
โดยผลชันสูตร แพทย์ระบุว่า พบบาดแผลบริเวณคิ้ว และหน้าแข้ง ต่อมา หลังเกิดเหตุ นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี , นายพรชนก (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี และนายพีรพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ได้เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.ท.นันท์มนัส โพธิ์ศรี พนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา "ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงความตาย"
ต่อมา นายสกล ได้รับหนังสือมอบอำนาจ จากนางจันที (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี แม่ของนายวิเชียร ผู้เสียชีวิต โดยประทับลายนิ้วมือแทนการเซ็นชื่อ ไปขอยื่นรับเงินประกันจาก พ.ร.บ.ประกันภัยรถยนต์จากบริษัทประกันรถเอกชนจำนวนหลายแห่ง
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทกลางฯ พบพิรุธหลายอย่าง เช่น ผลชันสูตรศพ และใบมรณะบัตร ซึ่งค่อนข้างที่จะไม่สอดคล้องกันกับความเป็นจริง เพราะบนร่างกายหากเกิดอุบัติเหตุจริง ต้องมีรอยถลอกหรือรอยชน แต่ผลชันสูตร กลับมีเพียงบาดแผล 2 แห่งเท่านั้น รวมไปถึงข้อพิรุธเรื่อง รถยนต์คันที่นายวิเชียรนั่งคันแรก และตกลงมาจากรถ มีการทำ พ.ร.บ.กรมธรรม์ประกันภัย มากถึง 12 กรมธรรม์ และรถยนต์อีก 2 คัน คู่กรณี มีกรมธรรม์คันละ 5 กรมธรรม์
โดยเป็น พ.ร.บ.ภาคบังคับ 22 กรมธรรม์ ต้องจ่ายชดเชยให้ผู้เสียชีวิตกรมธรรม์ละ 500,000 บาท และ พ.ร.บ.รถยนต์ภาคสมัครใจอีก 6 กรมธรรม์ รวมทั้งหมด 28 กรมธรรม์ ซึ่งเป็นเงินสูงถึง 14 ล้านบาท ที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ต้องจ่ายเงินผลประโยชน์นี้ ให้บิดา มารดา หรือผู้สืบสายเลือดของนายวิเชียร โดยรถยนต์กระบะที่ก่อเหตุ เป็นชื่อของนายสกล คนไปรับกรมธรรม์คือนางพัชรี (ภรรยาของนายสมศักดิ์) และนางสมพร
จากนั้น ช่วงดึกวันที่ 8 มี.ค.68 ศาลจังหวัดสว่างแดนดิน อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ข้อกล่าวหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" มีนายสมศักดิ์ อายุ 56 ปี , นายพรชนก อายุ 41 ปี , นายพีรพัฒน์ อายุ 30 ปี และนายสกล อายุ 38 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สกลนคร ได้จับตัวมาได้ทั้งหมด 3 ราย เหลือเพียง นายพรชนก อายุ 41 ปี ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ โดยตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ราย ยังให้การปฏิเสธ
วันนี้ (9 มี.ค.68) ที่ สภ.ศรีวิชัย อ.วานนิวาส พ.ต.อ.จิรโรจน์ โรจน์ภานุพัชร์ รองบังคับการตำรวจภูธรสกลนคร , พ.ต.อ.วีระศักดิ์ พิมพ์มีลาย รองผู้บังคับการ ภ.จว.สกลนคร , พ.ต.อ.วรวิทย์ นนพละ ผกก.สืบสวน ภ.จว.สกลนคร , พ.ต.อ.พินิจ ประสิทธิ์เขตกิจ ผกก.สภ.วานรนิวาส และชุดสืบสวน ร่วมประชุม เพื่อหาพยานหลักฐานพยานเพิ่มเติม และติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ เชื่อว่า ทำเป็นขบวนการ ซึ่งตำรวจมั่นใจจากการออกหมายจับผู้ต้องหาครั้งนี้ เพราะมีหลักฐานแน่นเชื่อได้ว่า จากอุบัติเหตุดังกล่าวนั้นมีความพิรุธผิดปกติ
ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำวันนี้ (9 มี.ค.68) ที่ผ่านมา แหล่งข่าวรายงานมาว่า หนึ่งในผู้ต้องหาที่จับควบคุมตัวอยู่ ได้ให้การรับสารภาพว่า มีการวางแผนทำร้ายร่างกายตรงจุดเกิดเหตุ แล้วทำทีให้รถยนต์มาชน เพื่อตบตาอำพรางให้เกิดเป็นอุบัติเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างเข้มข้น และจากการรับสารภาพ เป็นผลดีอย่างยิ่งในการดำเนินคดีได้ง่ายขึ้น
และยังมีรายงานอีกว่า นางบัวเรียน ให้การกับตำรวจว่า เคยบ่นให้กับหนึ่งในผู้ก่อเหตุฟังว่า อยากให้เอาน้องชายไปสั่งสอนหน่อย เพราะทนไม่ไหวที่ชอบทำร้ายพ่อแม่เป็นประจำ แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำจริง ซึ่งพาน้องชายออกไปจากบ้าน ต่อมาจึงทราบว่า น้องชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว
สำหรับนายสกล หนึ่งในผู้ต้องหา เป็นอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน และภายหลังจากที่พ่อนายวิเชียร ประสบอุบัติเหตุจนนอนติดเตียง นายสกลก็มาให้คำแนะนำเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ประกันภัยรถยนต์กับครอบครัว จึงทำให้มีความสนิทใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของนายวิเชียร - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
