ฝรั่งถูกประตูอัตโนมัติ บ.ขนส่งดังปิดกระแทก สูญเงิน 1.3 ล้านรักษาตัว

ฝรั่งถูกประตูอัตโนมัติ บ.ขนส่งดังปิดกระแทก สูญเงิน 1.3 ล้านรักษาตัว

35711 ก.ย. 67 13:26   |     AdminNews

"สายไหมต้องรอด" พาฝรั่งสูงอายุถูกประตูอัตโนมัติภายในบริษัทขนส่งดังในหมอชิต ปิดกระแทกล้มกระดูกสะโพกแตก รักษาตัวในห้อง ICU เสียเงิน 1.3 ล้านบาท หลังบริษัทขนส่งปัดรับผิดชอบ อ้างเดินชนเอง

วันที่ 11 ก.ย.67 เวลา 10.30 น. ที่สน.ประชาชื่น นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พาครอบครัวฝรั่งชาวนอร์เวย์ วัย 71 ปี มาติดตามความคืบหน้าการเจรจาไกล่เกลี่ย กรณี ฝรั่งชาวนอร์เวย์ ถูกประตูอัตโนมัติ ภายในบริษัทขนส่งดังแห่งหนึ่ง ในหมอชิต ปิดกระแทกจนล้มกระดูกสะโพกแตก ขณะกำลังเดินทางไปขึ้นรถทัวร์ชั้นเฟริสคลาสของบริษัทดังกล่าว เพื่อเดินทางจากหมอชิตไป จ.อุดรธานี ต้องเข้าผ่าตัดรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU นานกว่าครึ่งเดือน จนปัจจุบันอาการก็ยังไม่ดีขึ้น โรงพยาบาลประเมินค่ารักษาจนถึงปัจจุบันกว่า 1.3 ล้านบาทแล้ว ล่าสุดบริษัทขนส่งดังติดต่อมา บอกลูกค้าเดินชนประตูเอง บริษัทไม่สามารถรับผิดชอบหรือช่วยเหลือใดๆได้ ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อสอบสวนหาผู้รับผิดชอบ 

ภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัทขนส่งภายใน สถานีขนส่งหมอชิต จับภาพ ฝรั่งชาวนอร์เวย์ ผู้เสียหาย กำลังเดินออกจากบริษัทขนส่งดังกล่าว แต่กลับถูกประตูอัตโนมัติปิดกระแทกใส่จนผู้เสียหายล้มสะโพกซ้ายกระแทกพื้นเข้าอย่างจัง จนพนักงานและพลเมืองดีต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ

มุมต่อมา หลังเหตุการณ์ ผู้เสียหายพร้อมภรรยา เดินลากกระเป๋าเดินทางไปขึ้นรถเก๋ง เพื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งจะสังเกตุเห็นได้ว่า ผู้เสียหายมีอาการเดินกะเผลกและเอามือจับไปที่สะโพกซ้ายซึ่งกำลังระบมอยู่

เช้านี้ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ คุณฟิว จิรเมธ เดินทางไปติดตามคดีดังกล่าว ที่สน.ประชาชื่น ได้พูดคุยสอบถามกับนางบัวทอง มาร์ตินเซน อายุ 63 ปี ภรรยาของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ตนมารอรับสามีตนที่เดินทางมาจากประเทศนอร์เวย์ มาถึงกรุงเทพฯ คืนวันที่ 25 สิงหาคม แล้วตอนเช้าวันที่ 26 สิงหาคม ก็จะขึ้นรถของบริษัทดังกล่าว เพื่อกลับบ้านที่จังหวัดอุดรธานี โดยจองตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสไว้ ราคา 2 คน 1,472 บาท 


โดยก่อนขึ้นรถ สามีได้เดินออกไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งก็สังเกตว่าประตูเป็นประตูอัตโนมัติ พอจะเดินกลับเข้ามา เห็นประตูเปิดอยู่ จึงเดินเข้ามาเลย แต่พอเดินถึงประตู ประตูกลับปิดมาชนจนล้ม สะโพกกระแทกหัก 


ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ ทางบริษัทได้บอกว่า จะรับผิดชอบทุกอย่าง และยังเอากระเช้ามาเยี่ยมที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ตอนเเรกบอกว่า ต้องการอะไรให้เขียนแจ้งไป ทางครอบครัวจึงแจ้งไปว่า ต้องการให้ช่วยจ่ายค่ารักษาพยายาล แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ เพราะยังอยู่ระหว่างการรักษา หลังจากนั้น ทางบริษัทก็ขอเอกสารต่างๆ จนล่าสุด มียอดค่ารักษาพยาบาลกว่า 1.3 ล้านบาท เมื่อส่งเอกสารไป ทางบริษัทกลับมาบอกว่า จะไม่รับผิดชอบแล้ว เพราะไม่ใช่ความผิดของบริษัท แต่สามีตนเดินไปชนประตูเอง ระยะเซนเซอร์ตั้งไว้แค่ 90 องศา ไม่ใช่ 180 องศา หากต้องการเรียกร้องก็ให้ไปฟ้องเอาตามขั้นตอนของกฎหมาย 


สำหรับอาการของสามีตอนนี้ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังต้องอยู่ในห้อง ICU ซึ่งค่าใช้จ่ายก็สูง จึงกังวล อยากให้มาช่วยเหลือบ้าง และต้องการได้รับความเป็นธรรม 

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้ ตนไม่ได้ชี้ว่าใครถูกหรือผิด เพราะมันเป็นอุบัติเหตุ แต่ต้องการให้มีการสอบสวนให้สิ้นกระแสความ ว่าเกิดจากความผิดพลาดของประตูหรือไม่ หรือเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน พร้อมฝากเตือนถึงลูกหลานที่มีผู้สูงอายุ ให้ระมัดระวังเรื่องประตูอัตโนมัติด้วย เพราะเมื่อเกิดเหตุแล้ว จะอันตรายมาก ทั้งนี้ สายไหมต้องรอดเคยได้รับร้องเรียนเรื่องลักษณะเดียวกันที่เกิดในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ครั้งนั้น ห้างรับผิดชอบทุกอย่างเพราะถือว่าเหตุเกิดในห้าง 

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง