แม่ร้องแก๊งฟันน้ำนมทะลุถุง ลวงลูกวัย 13 รุมโทรม

(3 มี.ค. 68) “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” พร้อมทีมงาน พานางบัว (นามสมมติ) แม่ของเด็กหญิงบี วัย 13 ปี มาติดตามคืบหน้าคดีที่สภ.หนองแค จ.สระบุรี หลังเคยแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมาว่าลูกสาวถูกเพื่อนรุ่นพี่ต่างสถาบันและสถาบันเดียวกันลวงไปรุมโทรม

นางบัว (นามสมมติ) แม่ของเด็กหญิงบี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ระบุว่า ในคืนวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.30 น. ลูกสาวไปขอย่าออกไปซื้อขนมกับเพื่อนโดยไม่ได้บอกแม่ ย่านึกว่าไปกับเพื่อนผู้หญิงเลยให้ไป แต่ปรากฎว่าเป็น ด.ช.เอ อายุ 14 ปี เพื่อนชายต่างโรงเรียนที่เพิ่งคบหากับน้องบีได้ไม่กี่เดือน  

เด็กชายเอบอกน้องบีว่าจะพาไปขับรถเล่น ก่อนเปลี่ยนจุดหมายไปที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งปลูกอยู่ห่างจากบ้านคน ในบ้านมีเพื่อนชายอีกหลายคนอยู่ที่นั่น ตอนแรกเด็กชายเอบอกให้น้องเข้าไปรอในห้องและพยายามขอมีอะไรด้วยบอกว่า ถ้าไม่ยอมจะไม่ให้กลับบ้าน น้องเลยต้องยอมเพราะเกิดความกลัว 

แต่เมื่อฝ่ายชายกระทำน้องเสร็จ เขาได้บอกกับน้องว่าให้เพื่อนมาทำด้วยนะ น้องพยายามปฏิเสธแล้วแต่อีกฝ่ายไม่ฟัง เดินเปิดประตูแล้วเรียกเพื่อนเข้ามาและข่มขู่ว่าถ้าไม่ยอมจะไม่ให้กลับบ้านดีๆ ด้วยความกลัวน้องบีเลยต้องจำยอม เพราะอีกฝ่ายมีกัน 6 คน จากนั้นแก๊งอาชญากรรุ่นจิ๋วก็ได้ผลัดกับขืนใจน้องบี

หลังเสร็จกิจฝ่ายผู้ก่อเหตุได้ข่มขู่น้องบีว่าห้ามบอกใคร หากบอกจะตามไปฆ่าน้องบี และจะฆ่ายกครัวทั้งบ้าน จากนั้นจึงพาน้องบีกลับมาส่งบ้าน เวลาประมาณ 22.00 น. โดยน้องบียังไม่กล้าเข้าบ้าน จนคนให้ครอบครัวออกมาเจอ จากนั้นมีการซักถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น น้องบีก็ปิดปากเงียบ ก่อนที่จะยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังตอนประมาณ 5 ทุ่ม ครอบครัวจึงรีบพาน้องเข้าแจ้งความและตรวจร่างกายทันที

นางบัวเล่าอีกว่า ระหว่างที่น้องหายออกจากบ้านไปตนตามหาน้องตลอด ไม่มีเพื่อนคนไหนรู้เรื่องเลยแม่ก็รออย่างเป็นห่วงมาก ไม่รู้จะตามที่ไหน ในใจกลัวเรื่องแบบนี้มากแล้วสุดท้ายมันก็เกิดขึ้น ซ้ำ ทางผู้ปกครองของกลุ่มเด็กที่ก่อเหตุไม่มีท่าทีจะแสดงความรับผิดชอบ บอกว่าให้ไปจับเอาเองเลย ขอไม่ยุ่งเกี่ยว 

นอกจากนี้แม่ยังพยายามติดต่อไปทางโรงเรียนต้นสังกัดของกลุ่มเด็กผู้ก่อเหตุ ทางโรงเรียนแจ้งว่าเด็กเหล่านั้นไม่มาโรงเรียนหลายเดือนแล้ว สุดท้ายนี้ ตนกังวลเรื่องทางคดีเพราะว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน กลัวจะไม่ได้รับโทษอย่างสมควร อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตอนนี้สภาพจิตใจน้องไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไร กลายเป็นเด็กเก็บตัวไปเลยด้วยซ้ำ

ด้าน “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” เผยว่า หลังทราบเรื่องตำรวจไม่ได้ทำงานช้า แต่ติดเรื่องกระบวนการคุ้มครองเด็กที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งกับทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี (พมจ.สระบุรี) จึงนัดกันมาลงพื้นที่ในวันนี้

หลังเกิดเรื่อง ผอ.ของบางโรงเรียนที่เป็นต้นสังกัดที่กลุ่มผู้ก่อเหตุเรียน ได้บอกว่าเหตุนั้นไม่ได้เกิดในโรงเรียน จึงไม่ให้ข้อมูลเด็กผู้ก่อเหตุมา ซึ่งทางเราทราบดี แต่ผู้ก่อเหตุคือเด็กในต้นสังกัดของท่าน ท่านควรต้องให้ข้อมูลว่าเด็กเหล่านี้มีประวัติความเป็นมาเป็นอย่างไร และมีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง โรงเรียนควรมีแอ็คชั่นในการเยียวยาสภาพจิตใจ และช่วยเหลือผู้เสียหายมากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุต้องทราบพฤติกรรมของลูก ๆ ของท่าน ซึ่งเด็กกลุ่มผู้ก่อเหตุ อายุมากสุด 15 ปี บางคนอายุน้อยสุดเพียง 12 ปีเท่านั้น ยอมรับว่าตกใจ ถึงจะเป็นเด็กแต่ทำตัวแบบนี้ก็ไม่ควร

ด้านเจ้าหน้าที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี (พมจ.สระบุรี) ระบุว่า หลังรับแจ้ง เราได้เชิญบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระบุรีมาร่วมด้วย เราได้พูดคุยกับเด็กสภาพแล้ว น้องอยู่ในช่วงฟื้นฟูจิตใจ จึงให้คำแนะนำด้านสุขภาพจิตไป พร้อมกับแจ้งว่า หากเด็กประสงค์จะพบแพทย์จิต ทางเราจะประสานและพาไปทันที ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้เด็กตัดสินใจว่าอยากพบจิตแพทย์หรือไม่ 

ส่วนในเรื่องความเป็นอยู่ ผู้ปกครองประสงค์จะเลี้ยงดูบุตรเอง ซึ่งทางเราทราบว่าครอบครัวของเด็กประกอบอาชีพสุจริตและไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินมากนัก ก็จะมีพูดคุยแจ้งเรื่องรับเงินเยียวยาจากจังหวัด นอกจากนี้ยังมีเรื่องการศึกษา ที่ทางเราจะไปคุยกับสถานศึกษาว่าเด็กต้องได้รับการศึกษาต่อ เพราะเด็กยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่านั้น