เมียแอบฝั่ง GPS มาตามง้อผัวไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่จมกองเลือดดับ

(12 ม.ค.68) มีรายงานว่าเมื่อช่วงเวลา 19.00 น. วานนี้ เกิดเหตุฆาตกรรมภายในบ้าน หมู่ 4 ต.บางมะฝ่อ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ และทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.จิตรา อายุ 49 ปี ชาว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ใช้อาวุธปืนยิงนายศราวุธ อายุ 44 ปี ผู้เป็นสามีจนเสียชีวิต บริเวณโต๊ะหินอ่อนชั้นล่างของบ้าน ในสภาพมีรอยบาดแผลถูกยิงเข้าที่ชายโครงและข้างท้ายทอย รวม 2 นัด 

ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.อธิชชิพงษ์ ตุนา ร้องสารวัตร สอบสวน สภ.โกรกรพะ ได้ลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุแล้วพบตัวมือปืน นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธปืน จึงได้นำตัวมาสอบสวนยังโรงพัก โดยเบื้องต้นทราบว่า ชนวนที่เกิดขึ้น มาจากเรื่องพูดคุยและตกลงกันไม่ลงตัวในเรื่องเลิกรา จนทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังที่เกิดเหตุพบว่า บ้านถูกปิดเงียบ เนื่องจากครอบครัวเจ้าของบ้าน ต่างเดินทางไปจัดเตรียมสถานที่สวดอภิธรรมศพให้กับผู้ตายที่วัดบางมะฝ่อ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลังนี้ไปประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนการตรวจสอบ พบว่า ที่โต๊ะหินอ่อนบริเวณชั้นหนึ่งของบ้าน ยังมีรอยคราบเลือดติดอยู่ และมีรถเก๋งจอดอยู่ที่ช่องจอดหน้าบ้าน

น.ส.เกศสุดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บางมะฝ่อ ซึ่งอยู่ร่วมตรวจสอบในวันเกิดเหตุ เผยว่า ตอนนั้น ได้ขี่รถจักรยานยนต์เดินทางมาซื้อของที่ร้านโชห่วย ซึ่งอยู่ติดกับด้านหลังบ้านของคนตาย โดยในขณะที่กำลังซื้อของ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคล้ายกับประทัดดังขึ้นมาจากบ้านของผู้ตายถึง 3 ครั้ง แล้วถัดมาอีก 2 นาที ก็มีดังเพิ่มอีก 3 ครั้ง 

จึงได้เข้าไปตรวจสอบก่อนจะพบร่างของนายศราวุธ ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของบ้านถูกอาวุธปืนยิงนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นบ้านข้างโต๊ะหินอ่อน โดยมี น.ส.จิตรา ซึ่งเป็นแฟน และเป็นผู้ที่ลงมือยิงนั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยสีหน้าเครียด 

ส่วนอาวุธปืน ทราบว่า พ่อของฝ่ายชายได้ชิงปืนลูกโม่ ขนาด .38 มาจากมือของฝ่ายหญิงเอามาไว้กับตัว เนื่องจากฝ่ายหญิงพยายามจะใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวยิงตัวเองเพื่อหนีความผิด

น.ส.เกศสุดา ระบุว่า นายศราวุธ และ น.ส.จิตรา เป็นสามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนกัน และคบหาอยู่กินกันมานานเกือบ 10 ปีแล้ว โดยทั้งคู่ได้ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของภรรยาใน จ.ชลบุรี ก่อนที่ฝ่ายชายจะย้ายไปทำงานเป็นผู้จัดการโรงงานในเครือบริษัทของญี่ปุ่นที่กรุงเทพ ซึ่งในระหว่างนี้ ทั้งคู่ก็เกิดเรื่องทะเลาะหึงหวงและไม่เข้าใจกัน จนกระทั่ง ฝ่ายชายขอเลิกรา และแยกกันอยู่มาได้สักพักใหญ่แล้ว

ส่วนก่อนวันที่เกิดเหตุ ได้สอบถามพ่อกับแม่ของนายศราวุธ ทราบว่า ลูกชายของเขาเดินทางกลับมาเยี่ยมหาพ่อแม่ที่บ้านได้ 3 วันแล้ว โดยเจ้าตัวขอลาหยุดงานหลังปีใหม่ และมีโบนัสติดตัวกลับมาเที่ยวบ้านถึง 3 แสนบาท ส่วนฝ่ายหญิง ทราบว่า ขับรถเก๋งตามมาที่บ้านของฝ่ายชายที่หลัง 

โดยเดินทางมาถึงที่บ้านของฝ่ายชาย ในช่วงเวลาตี 5 ของวันที่ 11 มกราคม 2568 ก่อนจะขับรถออกไปคนเดียว แล้วขับกลับมาอีกทีในช่วงเวลาบ่าย และนั่งพูดคุยกับผู้ตายอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านจนกระทั่งถึงค่ำ จึงมีเสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับเผยว่า การที่ฝ่ายหญิงเดินทางมาที่บ้านของฝ่ายชายนั้น เนื่องเจ้าตัวได้แอบติดGPSไว้ที่รถของฝ่ายชายจนรู้พิกัด และขับรถตามมาหาเพื่อพูดคุยตกลงปัญหาในเรื่องชีวิตคู่ 

ซึ่งในส่วนของฝ่ายหญิงไม่ต้องการที่จะเลิก และยังอยากจะขอให้คืนดีอยู่ด้วยกันดั้งเดิมมากกว่า แต่สุดท้ายกลับถูกปฏิเสธอย่างไม่เหลือเยื่อใย จนกลายเป็นชนวนทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

ขณะที่ ร.ต.อ.อธิชชิพงษ์ ตำรวจเจ้าของคดี ระบุว่า ตอนที่เข้าไปจับกุมตัว น.ส.จิตรา นั้น เจ้าตัวเป็นคนบอกตำรวจว่าเป็นคนลงมือทำ พร้อมกับยื่นมือแล้วบอกให้ตำรวจจับ ซึ่งก็ได้ควบคุมตัวพร้อมกับอาวุธปืนมาที่โรงพัก โดยยอมให้การรับสารภาพทุกอย่าง แต่เจ้าตัวขอใช้สิทธิ์ไม่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จึงถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อนจะมีการดำเนินคดีในขั้นตอนต่อไป.