เอาผิดฝาแฝดพี่น้อง ผ. หลอกลงทุน-กู้ยืมเงิน สูญกว่า 20 ล้านบาท

เอาผิดฝาแฝดพี่น้อง ผ. หลอกลงทุน-กู้ยืมเงิน สูญกว่า 20 ล้านบาท

107424 ธ.ค. 67 17:50   |     Tum1

ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความเอาผิด "ฝาแฝดพี่น้อง ผ." หลอกลงทุน-กู้ยืมเงิน สูญกว่า 20 ล้านบาท

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ธ.ค.67 ริมถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายทรงชัย เนียมหอม หรือโอม ปภส.(ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน) พาผู้เสียหายจำนวน 10 ราย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. แจ้งความกรณีถูกสองพี่น้องฝาแฝด ชื่อย่อ ผ.ทั้งคู่ ฉ้อโกงเงินรวมกว่า 20 ล้านบาท

นายโอม เปิดเผยว่า ผู้เสียหายที่ตนพามาในวันนี้มีหลายกลุ่ม แต่เกิดความเสียหายจากพี่น้องฝาแฝดผู้หญิงคู่หนึ่ง ชื่อย่อว่า ผ.โดยผู้เสียหายกลุ่มแรก ถูกแฝดคู่นี้ฉ้อโกงด้วยการหลอกลงทุน กลุ่มที่สอง เป็นอดีตพนักงานในบริษัทของแฝดคู่นี้ กลุ่มที่สามเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แล้วได้สินค้าครบบ้างไม่ครบบ้าง บางรายได้สินค้าไม่ตรงตามที่สั่งไป และบางรายไม่ได้รับสินค้า แม้ว่าจ่ายเงินชำระค่าสินค้าไปแล้ว เมื่อไม่ได้ของก็ขอเงินคืน แต่ทยอยจ่าย สั่งสินค้าไปราคาหลักแสนบาท แต่ได้สินค้ามาหลักพันบาท 


ซึ่งผู้เสียหายทุกราย พบว่า พี่น้องฝาแฝด ผ.นี้ ได้มีการใช้จ่ายเงินด้วยการซื้อเหรียญ UNI ในแพลตฟอร์ม TikTok แล้วโอนให้กับ KAMIN ติ๊กต๊อกเกอร์สาวชาวเกาหลีใต้ เป็นของขวัญก่อนจะบินไปหากันที่เกาหลีใต้ พี่น้องฝาแฝด ผ.คู่นี้ ก่อเหตุฉ้อโกงมาแล้วนานกว่า 5-6 ปี มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อตั้งแต่หลักแสนบาท ไปถึงหลักล้านบาท ขนาดลูกน้องในบริษัทก็ยังถูกโกง ด้วยการใข้กลอุบายหลอกยื่มเงิน บอกให้เอาเงินเก็บมาร่วมลงทุนในบริษัทของเขา



นาย เอ.(นามสมมุติ)อายุ 43 ปี อดีตพนักงาน กล่าวว่า ตนทำงานอยู่กับพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ หว่านล้อมให้นำเงินเก็บมาให้ยืม อ้างว่าถูกสามีเก่าโกง การเงินขาดสภาพคล่อง กำลังกู้ยืมธนาคารอยู่ จะขอกู้ยืนพนักงานก่อนจ่ายผลตอบแทนอย่างงาม ตนเชื่อใจ เพราะเห็นเป็นเจ้านาย ไม่น่าจะโกงลูกน้อง และมีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาตรวจดูที่บริษัทโดยตลอดเวลา จึงตัดสินใจช่วยโดยให้ยืมไป 3 ครั้งรวม 5 แสนบาท จนเวลาผ่านไป 2 ปี ตนออกจากที่ทำงานเดิม โทรไปทวงเงินที่ยืม ก็บ่ายเบี่ยงจนติดต่อไม่ได้ ไปตามหาที่โรงงานก็ไม่เจอตัว แจ้งความตำรวจออกหมายเรียก ก็ไม่ไปพบ แฝดทั้งคู่จะใช้ชีวิตหรูอยู่สบาย ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ตัวแฝด ผ.คนน้อง ใข้รถหรูปอร์เช่ กับ BMW คนแฝดพี่ขับเบนซ์

ตนออกจากบริษัทนี้มา 2 ปี ก็คอยติดตามข่าวอยู่ตลอด เพราะต้องการเงินคืน และพบว่ามีผู้เสียหายรายอื่นเพิ่มเรื่อยๆ บางคนได้เงินคืนบ้างเล็กน้อย ส่วนตนไม่ได้เลยจากหนี้ 5 แสนบาท ทำหนังสือยอมรับสภาพหนี้ทยอยจ่ายคืนมารวม 2 หมื่นบาทก่อน จากนั้นก็จะไม่จ่ายคืนอีกเลย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง