รู้จักพรรค “ถิ่นกาขาวชาววิไล” จากข่าวลือ “ก้าวไกล” เตรียมเทกโอเวอร์
รู้จักพรรค “ถิ่นกาขาวชาววิไล” จากข่าวลือ “ก้าวไกล” เตรียมเทกโอเวอร์
ทำความรู้จัก “ถิ่นกาขาวชาววิไล” พรรคการเมืองขนาดเล็กสายพุทธ ที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นพรรคที่ก้าวไกลจะใช้เป็นพรรคสำรองหากถูกยุบพรรค 7 ส.ค. นี้
(เรียบเรียงโดย: ปิยะธิดา ผ่านจังหาร)
จากกรณีที่มีข่าวออกมาว่า “พรรคก้าวไกล” มีการเจรจากับ “พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล” พรรคการเมืองขนาดเล็กที่ไม่มี สส.ในสภา ถึงความเป็นไปได้ที่จะย้าย สส.ของพรรคก้าวไกลไปเป็นสมาชิกพรรคดังกล่าว หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคในวันที่ 7 ส.ค. นี้ ก่อนที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล จะออกมาชี้แจงว่ามีการพูดคุยเบื้องต้นเพื่อเตรียมความพร้อมจริง แต่คุยกับหลายพรรคไม่ใช่แค่พรรคถิ่นกาขาวฯเท่านั้น
ทั้งนี้พรรคถิ่นกาขาว ชาววิไล นั้นหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อมากนัก พรรคนี้เป็น 1 ในพรรคเล็กที่ลงเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด พ.ศ.2566 ด้วย โดยพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล หรือชื่อเดิมคือพรรคถิ่นกาขาว เริ่มก่อตั้งพรรคเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2555 ปัจจุบันมี นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค และนายกฤติน นิธิเบญญากร เป็นเลขาธิการพรรค
จากข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งระบุว่า พรรคถิ่นกาขาวฯ ปัจจุบันมีสมาชิกพรรคทั้งสิ้น 10,474 คน มีสำนักงานใหญ่ของพรรคอยู่ที่ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ยังเคยมีชื่อของนางลลิตา สิริพัชรนันท์ เป็นหัวหน้าพรรคอยู่ด้วย โดยนางลลิตา มีประวัติเคยได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ในสมัยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2566 และได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2566
สาหรับพรรคถิ่นกาขาวฯ มีสโลแกนประจำพรรค คือ “ขอดูแล ปกป้อง รักษา พระพุทธศาสนา ให้มั่นคง ยั่งยืน” เป็นพรรคที่มีจุดยืนชัดเจนในด้านการขับเคลื่อนเรื่องพระพุทธศาสนา โดยที่พรรคระบุว่ามีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อศาสนา เพื่อพระพุทธศาสนาในรัฐสภา หวังแก้ปัญหาและขับเคลื่อนด้านกฎหมายให้กับคณะสงฆ์ให้ตรงจุด ช่วยให้คนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่ากลับเข้าสู่พระพุทธศาสนา โดยมีนโยบายหลักของพรรค 3 เรื่อง คือ
- Co-Temple Space: ปรับพื้นที่วัดสู่ประโยชน์ชุมชนโดยรอบ เช่น การศึกษา การพักผ่อน การแลกเปลี่ยน และอื่นๆ ช่วยวางต้นแบบส่งเสริมพื้นที่ใช้สอย จัดระเบียบแผงรอยในวัด สร้างพื้นที่เศรษฐกิจโดยรอบ และให้ชุมชนใกล้เคียงได้มีส่วนร่วมใช้ประโยชน์มากขึ้น
- Buddhism Power: ผลักดัน Soft Power ด้านการการท่องเที่ยวด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยพระพุทธศาสนาเป็นแรงผลักดัน สอดคล้องกับนโยบายข้อแรกที่จะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในวัด สร้างพื้นที่และจัดระเบียบการค้าระตุ้นเศรษฐกิจ ในพื้นที่รอบๆ วัด
- ทนายศาสนา: เพื่อช่วยให้ความรู้ด้านกฎหมายให้กับเจ้าอาวาสกับพระทั่วประเทศ เป็นศูนย์กลางให้ความกระจ่างกับชาวพุทธ หาข้อเท็จจริงก่อนจะนเสนอออกมาในมุมมองที่ถูกต้อง เพื่อกอบกู้ศาสนาอย่างจริงจัง
และในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2566 พรรคถิ่นกาขาวฯ ได้ส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขต 2 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 13 คน ลงเลือกตั้งด้วย โดยจับได้เบอร์ 46 พร้อมชูนโยบายสำหรับการเลือกตั้งครั้งล่าสุด 6 ข้อ คือ
- ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีวิชาศีลธรรมจริยธรรมอยู่ในหลักสูตรทุกระดับ
- ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 และโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข
- เร่งปัญหาที่ดินสำนักสงฆ์ที่ธรณีสงฆ์วัดร้างที่มีปัญหาให้ออกโฉนดที่ดินได้เร็ว
- ส่งเสริมสนับสนุนจัดตั้งฝ่ายกฎหมายทุกจังหวัดสำหรับคณะสงฆ์
- ส่งเสริมและสนับสนุนประเพณีทางศาสนาและวัฒนธรรมเชิงท่องเที่ยว
- ผลักดันให้มีการจัดตั้งกระทรวงการศาสนา
สำหรับชื่อพรรค “ถิ่นกาขาว ชาววิไล” นั้นหลายคนอาจจะเคยรู้จักมาบ้างในฐานะของ 2 วรรคสุดท้ายในคำพยากรณ์ 10 ยุค ที่เชื่อกันว่าเป็นคำพยากรณ์ของยุคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยที่มีการบอกเล่าที่มาของคำพยากรณ์นี้ไว้ 2 แบบ คือ เป็นคำพยากรณ์ของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ใย) หรือ “หลวงพ่อใย” พระเกจิสมัยกรุงศรีอยุธยา
บางตำราก็ว่าเป็นคำทำนายในสมุดข่อย ที่นายอาญาราช (อิ่ม) ศิษย์ก้นกุฏิของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี หรือ “สมเด็จโต” พบเข้าขณะเข้าไปทำความสะอาดกุฏิของสมเด็จโต หลังสมเด็จโตมรณภาพ
โดยคำทำนายแต่ละฉบับที่มีการเล่าลือกันออกไปมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ฉบับที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จะระบุยุคทั้ง 10 เอาไว้ว่า “มหากาฬ พาลยักษ์ รักมิตร สนิทธรรม จำแขนขาด ราษฎร์จน ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาววิไล” ชื่อพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ก็มาจาก 2 วรรคสุดท้ายนั่นเอง
ที่มา: https://www.facebook.com/ThinkakaochaovilaiParty.officialth