ป้าเผาใบอ้อยยอมรับผิดโดยดี บอกถ้ารู้ว่าผิดจะไม่ทำ

ป้าเผาใบอ้อยยอมรับผิดโดยดี บอกถ้ารู้ว่าผิดจะไม่ทำ

103825 ม.ค. 68 22:52   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

จบเรื่อง ป้าเผาใบอ้อยถ่ายรูปลงโซเชียลยอมรับผิดโดยดี บอกขอโทษสังคมหลายๆ ที่ทำลงไปเพราะไม่รู้ เพิ่งมาทำไร่อ้อยปีแรก เห็นคนอื่นทำก็ทำบ้าง ถ้ารู้ว่ามีความผิดก็จะไม่ทำแต่แรก - อบต.แจ้งความเอาผิดแล้ว

(25 ม.ค. 68) ช่วงสายวันนี้ นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผวจ.หนองบัวลำภู นายเพทาย จรกระโทก นอ.ศรีบุญเรือง สั่งการให้นายประเสริฐ นิมมานสมัย หน.สนง.ปภ.หนองบัวลำภู  นายศักรินทร์  โพธินาม นายสมมาตร ไทรทอง ปลัดอำเภอศรีบุญเรือง ร่วมกับ รองนายก อบต.ทรายทอง กำนัน ผญบ.บ้านกุดแข้  จนท.สาธารณสุขอำเภอศรีบุญเรือง จนท.สธ.รพ.สต.บ้านทรายมูล ต.ทรายทอง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย ร.ต.อ.นิติพัฒน์  จงดา ร้อยเวร สภ.ศรีบุญเรือง  ร.ต.อ.ยงยุทธ  แสงนิล ชุดสืบสวนและทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีมีผู้โพสต์การเผาใบอ้อย ในสื่อโซเชี่ยล


จากการตรวจสอบพบว่า ผู้โพสต์คือ นางพุทธ อายุ 59 ปี ชาวบ้านกุดแข้ ต.ทราบทอง เป็นเจ้าของไร่อ้อยดังกล่าว โดยไร่อ้อยที่เกิดเหตุ พื้นที่ประมาณ 2.8 ไร่ อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้าน ห่างหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นการจุดไฟเผา ใบอ้อยที่เหลือในพื้นที่หลังการเก็บเกี่ยว ไม่ได้เผาต้นอ้อยแต่อย่างใด เหตุเกิดเมื่อ 23 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 18.30 น.


แต่หลังเกิดเหตุ ไม่สามารถดับไฟได้เอง นางพุทธจึงขับรถเข้าไปตามญาติพี่น้องเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน มาเพื่อมาช่วยดับไฟ หลังไฟดับจึงได้โพสต์ขอบคุณชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟ 



ทางคณะเจ้าหน้าที่ ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ จึงได้ดำเนินการแจ้งเจ้าของพื้นที่ผู้ที่เป็นผู้จุดไฟว่า เหตุการณ์เผาไร่อ้อยหรือพื้นที่ตอซังหลังเก็บเกี่ยว เป็นความผิดตาม กฎหมายและฝ่าฝืนข้อสั่งการการห้ามเผาในพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ต่างๆในจังหวัดหนองบัวลำภู มีโทษต้องถูกดำเนินคดี และจำเป็นดำเนินการแจ้งความ โดยมอบหมายให้ อบต.ทรายทองผู้เป็นเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเข้าแจ้งความ ที่ สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู


ทั้งนี้ระหว่างเดินทาง คณะได้พบเหตุการณ์เผาตอซังขึ้นอีกจำนวน 4 แปลง เป็นลักษณะความผิดซึ่งหน้า รวมแปลงที่แจ้งความวันที่รวม 5 แปลงจึงได้สั่งการให้ อบต.ทรายทองเข้าแจ้งความดำเนินคดีภายในวันนี้ต่อไปทั้งหมดที่มีการดำเนินเผา ซึ่งลักษณะของความผิดที่กระทำ เป็นการก่อให้เกิดมลพิษทางด้านสาธารณสุข อัตรโทษปรับไม่เกิน 14,000 บาท 



ทางด้าน นางพุทธ กล่าวว่า ตัวเองไม่รู้ถ้ารู้ก็คงไม่ทำ และต้องขอโทษพี่น้องประชาชนและสังคมด้วย ที่ตนเองได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ค นั้นก็เพื่อจะขอบคุณผู้มาช่วยดับไฟ แต่ก็ด้วยความไม่รู้กฏหมาย เมื่อผิดก็ยอมรับผิดทุกอย่าง พร้อมทั้งก็ขอโทษสังคมด้วย เพราะว่าตนเองพึ่งมาทำไร่อ้อยปีแรก ไม่เคยทำมาก่อน แต่ก่อนก็ให้คนอื่นทำ เห็นคนอื่นเผาได้ก็เลยเผา ต่อไปจะไม่ทำจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งฝากเตือนเพื่อนๆ เกษตรกร อย่าได้ทำอย่างที่ตนเองทำ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย หากจะทำการเกษตรก็ขอให้ใช้วิธีการอื่นแทน 



ส่วนทางด้าน นายศักรินทร์  โพธินาม ปลัดอำเภอศรีบุญเรือง หัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคงอำเภอได้  แจ้งกำชับกับทาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและท้องถิ่น ให้มีการประกาศกำชับในเรื่องของการเผาอ้อยหรือป่า เนื่องจากส่งผลกระทบต่อมลพิษทางอากาศทำให้เกิดค่าฝุ่น PM 2.5  ที่กำลังเป็นปัญหาของประเทศอยู่ในขณะนี้ ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ต่อเนื่อง เพื่อลดการเผาและหากพบว่ามีการเผาเกิดขึ้น ขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย หากท้องถิ่นไม่แจ้งความดำเนินคดีก็ถือว่าละเลย  ทางอำเภอสามารถแจ้งความดำเนินคดีแทนได้



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง