“ชัชชาติ” สู้ฝุ่น! ห้ามรถบรรทุกไม่ลงทะเบียน 'บัญชีสีเขียว' เข้าเมืองชั้นใน
“ชัชชาติ” สู้ฝุ่น! ห้ามรถบรรทุกไม่ลงทะเบียน 'บัญชีสีเขียว' เข้าเมืองชั้นใน
ผู้ว่า “ชัชชาติ” ประกาศยกระดับเพิ่มความเข้มข้นมาตรการสู้ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม. พร้อมใช้เทคโนโลยีตรวจจับ-ปรับจริง หวังร่าง พ.ร.บ.อากาศให้อำนาจจัดการ
21 ม.ค.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการพยากรณ์เราทราบว่า ช่วงนี้สัปดาห์นี้จะมีสภาวะการถ่ายเทอากาศที่ต่ำ โดยเฉพาะช่วงวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็น 2 วันที่เราประกาศ WFH ครั้งแรกของปี 2568 และสถานการณ์ฝุ่นจะหนาต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์นี้ และจะกลับมาดีอีกครั้งในวันเสาร์และวันอาทิตย์ โดยมีสาเหตุมาจากสองเหตุผลคือ สภาวะอากาศกด และสภาพการจราจร ในกรุงเทพมหานครหนาแน่น จากการปิดกั้นเส้นทางจราจรจากการทำรถไฟฟ้ารถไฟฟ้า และมีการเผาข้ามจังหวัด ในพื้นที่ข้างเคียง โดยเฉพาะจังหวัดนครนายกและปราจีนบุรี ซึ่งมีการเผาที่สูงต่อเนื่องคิดเป็นสองเท่าของปีที่แล้ว ทำให้การคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นทั้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมอุตุนิยมวิทยา น่าจะสูงขึ้นในช่วงสามวันที่เหลือของสัปดาห์นี้ และจะบรรเทาลงในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์
เส้นทางกทม. จะมีการออกมาตรการ ห้ามรถบรรทุกที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีกรีนลิส หรือ 'บัญชีสีเขียว' ที่เราได้ลงไว้ว่า รถคันไหนที่มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไส้กรอง เป็นรถบรรทุก EV เปลี่ยนเป็นเครื่องยูโรห้า หรือใช้เชื้อเพลิงเป็นก๊าซธรรมชาติ LNG ที่ได้ลงทะเบียนกับกทม.ไว้ ซึ่งจะสามารถวิ่งเข้ามาในเขตวงแหวนชั้นใน และวงแหวนรัชดาภิเษกได้ แต่ถ้าหากรถบรรทุกคันไหนไม่ได้ลงทะเบียนกับเราไว้ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 30,000 คัน ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด ตั้งแต่เช้ามืด (00.01) ของวันพฤหัส จนถึงวันศุกร์ 23.59 น. เป็นการนำร่องสองวัน แต่มาตรการดังกล่าว ไม่ได้ห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปทุกคัน สำหรับรถคันไหนที่ยังไม่ได้เข้าบัญชีกรีนลิสต์ สามารถเข้าร่วมบัญชีได้ พรุ่งนี้ยังลงทะเบียนทัน โดยจะมีการตรวจจับรถที่ไม่ได้เข้าบัญชีกรีนลิสต์ด้วยกล้อง CCTV จำนวน 259 ตัวที่อยู่รอบวงแหวน ซึ่งจะตรวจจับทะเบียนรถด้วยระบบ AI ตลอด 24 ชม. ซึ่งช่วงต้นอาทิตย์ที่ผ่านมากทม.ได้มีการทดสอบระบบและพบว่ามีรถบรรทุกที่ฝ่าฝืนเข้ามา 2,500 คันต่อวัน และเป็นรถที่อยู่ในกรีนลิสต์ประมาณ 400 คัน หรือประมาณ 18 ถึง 19% ของรถบรรทุก
ซึ่งหากตรวจได้ก็จะมีมาตรการส่งหลักฐานปรับ โดยมีโทษปรับเป็นเงิน 2000 บาทและจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากสืบต่อได้ว่ารถคันดังกล่าวไปให้บริการที่ไซด์งานไหนก็จะตามไปเอาเรื่องที่ไซด์งานนั้นด้วย โดยจะมีการตักเตือนว่ากล่าวและอาจจะยกระดับไปถึง ให้ยุตติการก่อสร้างชั่วคราวได้
นายชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ ว่า ความจริงแล้วเราสามารถตั้งด่านได้ แต่ปัญหาคือรถติดมหาศาล และอาจสร้างมลพิษเพิ่มไปอีก ดั้งนั้น จึงใช้กล้อง CCTV 249 ตัวตามทางเข้าวงแหวน ซึ่งสามารถรู้ได้ทันทีหากลักลอบเข้ามา
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า ความจริงแล้วเราไม่อยากไปจับคน เราอยากสร้างแรงจูงใจ ให้รถเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ให้มีมาตรฐานดีขึ้น ถ้าหากเราไปบอกว่าห้ามทุกคันเข้าคงไม่มีใครไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือไส้กรอง แบบนี้จะทำให้รถทุกคันไม่สามารถเข้ามาได้ก็อาจกระทบเรื่องเศรษฐกิจ
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า อยากให้ช่วยกัน อย่างที่บอกว่าฝุ่นไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกือบ 100% ที่เราเจอเป็นฝุ่นที่เกิดจากคนทำขึ้น ทั้งการเผา ชีวมวลเผาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร จึงอยากขอความร่วมมือจังหวัดใกล้เคียงควบคุมการเผาด้วย ซี่ง กทม. เองเราสั่งห้ามเผาเด็ดขาดแล้ว แต่ยังมีบางจุดที่มีเผาแล้วไฟไหม้ด้วย ซี่ง กทม. เองเราพยายามเข้มงวดที่สุด และหากมีการเผาจะเข้าไปดำเนินการทันที
นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงการออกมาตรการ WFH ในช่วงผ่านมาว่า ปีที่แล้วมีคนร่วมมือ 60,000 คน ส่วนปีนี้ยอดล่าสุดคือหลักแสนคน แต่เรื่องการใช้รถใช้ถนนแล้วรถยังติด คงมีหลากหลายปัจจัยด้วย เช่น ปิดถนนสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฯลฯ ส่วนตัวมองว่าเราต้องช่วยกัน และเรื่องนี้เป็นเรื่องการขอความร่วมมือไม่ใช่การบังคับ
ส่วนการขอความร่วมมือเรื่อง WFH จากนี้ ทาง กทม. คงต้องหาเครือข่ายเพิ่มขึ้น อย่างเช่นบริษัทเองเราก็อยากให้มาเข้าร่วมเยอะๆ สามารถแสดงความจำนงเข้ามาได้ ถ้าหากไม่สามารถ WFH ได้ก็ขอความร่วมมือให้ใช้บริการสาธารณะเพิ่ม อย่างตัวเองก็พยามใช้รถไฟฟ้าหรือปั่นจักรยานมาทำงาน
เมื่อถามว่ากทม. หากสถานการณวิกฤตสามารถใช้อำนาจสั่งหน่วยงานในสังกัด WFH ได้หรือไม่ นายชัชชาติ บอกว่า ตอนนี้ก็สั่งอยู่ แต่ในส่วนงานราชการอื่นๆเราไม่สามารถ ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปตามดุลย์พินิจของแต่ละหน่วยงาน ส่วนที่ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอครม. สั่งให้ WFH นั้น ถือว่าเป็นเรื่องดี ต้องให้หน่วยงานกลางเป็นคนดำเนินการ และในการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น ก็มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง
ส่วนที่นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าค่าฝุ่นที่ประเทศไทย ตอนนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและสุขภาพ หากเทียบกับประเทศจีนหรือประเทศอินเดียเป็นต้น นายชัชชาติ บอกว่า แต่ละที่และแต่ละประเทศอาจไม่เหมือนกัน แต่จากการที่ตนไปวิ่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พบว่ามีอาการระคายเคืองคอ ซึ่งแน่นอนว่าฝุ่นมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตและสุขภาพ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนระมัดระวังและตนเองในฐานะที่เป็นผู้ว่าฯ ก็ต้องดูแล
และที่บอกว่า WFH ไม่คุ้มในเรื่องเศรษฐกิจนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า บางบริษัทอาจมีประสิทธิภาพด้วยซ้ำ ที่คนไม่ต้องออกมาติดอยู่ถนนเป็นเวลา 2 ชม.และข้อดีของการ WFH คือไม่ต้องออกมาเจอกับสภาวะนอกบ้านเป็นการใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน
นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงร่าง พรบ.อากาศสะอาด ด้วยว่า อยากให้ร่างดังกล่าวนี้ให้อำนาจท้องถิ่นเต็มที่ในการสั่งการ ทั้งนี้ ขอย้ำว่า กทม. ต้องทำทุกวิถีทาง จะคิดในแง่ดีมากไม่ได้ ผู้ว่าฯ ต้องเตรียมและทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพราะคืองานของเรา
ผู้ว่าฯกทม. ยังบอกว่า ไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นฝ่ายเดียว เพราะเป็นภารกิจของเรา เราต้องทำให้เต็มที่ แต่ต้องทำให้ดีขึ้นกว่านี้ ตัวเองพยายามคิดหาวิธีตลอด ว่ามาตรการไหนจะช่วยให้เข้มข้นขึ้นได้
“อย่าหมดหวังมันต้องดีขึ้น เชื่อดิ ในปี-สองปีนี้ วันนี้เรามาถูกทางแล้ว กทม.ต้องดีขึ้น” นายชัชชาติ กล่าว - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน