ญาติร้องสาวถูกชนแล้วหนีกลัวคดีไม่ได้รับความเป็นธรรม

ญาติร้องสาวถูกชนแล้วหนีกลัวคดีไม่ได้รับความเป็นธรรม

95724 ธ.ค. 67 17:15   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สาววัย 34 ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลางดึกจะไปบ้านสามี แต่ไปไม่ถึงถูกรถ 2 คันชนแล้วหนี เสียชีวิตห่างจากบ้านสามีแค่ 3 กม. - ญาติหวั่นคดีจะไม่คืบหน้า

(24 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายสุชาติ อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ต.ตะกั่วป่า อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ญาติของ น.ส.ธนาภรณ์ อายุ 34 ปี เหยื่ออุบัติเหตุ ถูกรถ 2 คันชนแล้วหลบหนีไป ไม่ลงมาช่วยเหลือ ปล่อยให้ น.ส.ธนาภรณ์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยทางญาติต้องการให้สื่อมวลชนช่วยเหลือทำข่าว กลัวคดีจะไม่คืบหน้า และต้องการให้คู่กรณีมารับผิดชอบ มาขอขมาศพคนตาย


นายสุชาติเล่าวว่าขณะเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิก สีชมพู จากพื้นที่บ้านหัวหนอง ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จะไปหาสามีที่บ้านดอนตะแบง ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 9 กิโลเมตร แต่ไปไม่ถึงถูกชนเสียก่อน


โดยในที่เกิดเหตุพบร่องรอยจุดแรกกลางถนนเป็นร่องรอยของรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตถูกลากไถลข้ามเลนไปประมาณ 100 เมตร พร้อมทั้งมีรอยเบรกยาวประมาณเกือบ 5 เมตร และพบรอยลากรถจักรยานยนต์กลับมาอีกประมาณ 100 เมตร ซึ่งจะมีคราบน้ำมันและเศษชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ



นายสุชาติเล่าว่า หลังเกิดเหตุตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังได้หาเบาะแสจากกล้องวงจรปิด ใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งมีวงจรบันทึกได้เพียงเสียงชน จากนั้นมีรถยนต์ขับจากจากอ.หนองสองห้อง มุ่งหน้าไป อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ด้วยความเร็วสูง ผ่านไปไม่นาน ก็มีรถยนต์กระบะสีแดง มีหลังคา ขับมาจากฝั่ง อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ผ่านเข้าไป อ.หนองสองห้อง จึงเชื่อว่า น่าจะมีรถยนต์คันแรก ชนรถคนตายจนล้มลงกลางถนน แล้วรถคันที่สองวิ่งสวนทางมา มาชนซ้ำ แล้วลากร่างคนตายไปไกลจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร หลังเกิดเหตุ คนขับรถไม่ลงมาดู จึงอยากให้รถคู่กรณี ออกมารับผิดชอบ และมาจุดธูปไหวขอขมาศพคนตาย เพื่อให้คนตายหมดห่วงและไปสู่ภพภูมิที่ดี


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านที่ผู้เสียชีวิตอยู่กับสามี ที่บ้านหัวหนอง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศล พบกับนายประวิทย์ อายุ 33 ปี สามีผู้ตายจุดธูป บอกกล่าวหน้าศพผู้ตาย ว่า พาผู้สื่อข่าวมาทำข่าว เผยแพร่ออกไปให้คู่กรณีมารับผิดชอบแล้ว คาดว่าจะกระจ่างในเร็ววันนี้


นายประวิทย์กล่าวว่า ก่อนที่ภรรยาจะประสบอุบัติเหตุนั้น ตนออกไปนอนที่บ้านที่บ้านดอนตะแบง อยู่ห่างจากบ้านหัวหนอง ประมาณ 9 กม. ขับขี่รถไปใช้เวลาประมาณ 10 นาที ส่วนภรรยา อยู่บ้านกับมารดา และไปเที่ยวงานงิ้วคืนสุดท้ายกับเพื่อน แต่ได้คุยโทรศัพท์กันตลอด


เมื่อภรรยาเที่ยวงานงิ้วเสร็จก็กลับมาที่บ้าน พร้อมกับโทรศัพท์หาตน บอกว่าจะออกไปหาที่บ้านดอนตะแบง จึงห้ามไว้ เพราะอากาศหนาวเย็น จนช่วงเวลาประมาณ ตีสามกว่าจึงโทรหาแม่ยายจึงทราบว่าภรรยาขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านแล้ว  จากนั้นจึงโทรศัพท์ติดต่อกับภรรยา แต่ติดต่อไม่ได้



จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.52 น. มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยรับสาย แจ้งว่า ภรรยาประสบอุบัติเหตุบนถนน ในพื้นที่บ้านโนนตาล ต.ตะกั่วป่า. อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ห่างจากบ้านดอนตะแบงประมาณ 3 กม. จึงรีบขับรถออกมาดู พบว่า ภรรยาเสียชีวิตแล้ว


นอกจากนี้ยังมีเรื่องแปลกคือ ก่อนทราบข่าวตนได้ยินเสียงภรรยาบ่นกลับมาถึงบ้านแล้ว แต่เมื่อออกไปดูไม่กลับเจอใคร เชื่อกระแสจิตสุดท้ายของภรรยากลับมาหา ก่อนสิ้นใจ


นายประวิทย์ สามีคนตาย กล่าวอีกว่า ครอบครัว ยังทำใจไม่ได้ เพราะในที่เกิดเหตุไม่เห็นคู่กรณี จึงร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ให้ ทำข่าวเผยแพร่ออกไป เพื่อให้คู่กรณีมารับผิดชอบในการเกิดอุบัติเหตุครั้งนื้และขอให้มาขอขมาศพคนตายที่บ้านด้วย ส่วนคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ติดตามตัวคนขับรถยนต์มาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมาย


ด้าน พ.ต.อ.ธีร์ธัช พงศ์สุวรรณ์ ผกก.สภ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นภายหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่และเก็บหลักฐานกล้องวงจรปิด และพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน เป็นรถกระบะสีแดง และรถเก๋งสีขาว จึงได้มีการตรวจสอบกระทั่งทราบตัวบุคคลว่ารถกระบะคันแดงนั้นเป็นพ่อค้าชาว อ.หนองสองห้อง ก่อนจะตามไปที่บ้านแต่ไม่พบรถ โดยได้เรียกให้เจ้าของรถกระบะสีแดงและรถยนต์เก๋งสีขาว ทราบว่าอยู่ในพื้นที่ อ.นาโพธฺ์ จ.บุรีรัมย์ นำรถมาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว เพื่อทำการสอบปากคำและจะประสานทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บหลักฐานเปรียบเทียบวัตถุพยานที่ปรากฎ ซึ่งแม้ว่าจะนำรถไปล้างหรือเปลี่ยนสีแต่ก็ไม่สามารถที่จะบิดเบือนพยานหลักฐานได้


ภายหลังจากสอบปากคำหากยืนยันว่าเป็นรถยนต์ที่ชนรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตก็จะต้องถูกแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานที่ใกล้เคียงทันที ซึ่งตามกฎหมายเชื่อได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตและเป็นความผิดตามกฎหมาย


หากใครรู้ตัวว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องดังกล่าว ขอให้เข้ามามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และในส่วนของทางแพ่งก็จะเป็นในส่วนของทั้งสองฝ่ายพูดคุยไกล่เกลี่ยเพื่อสามารถลดโทษตามกฎหมายซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลต่อไป



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat