รถปูนจ๋ากลับมาให้ผมรับผิดชอบด้วย
รถปูนจ๋ากลับมาให้ผมรับผิดชอบด้วย
หนุ่มขอใช้พื้นที่สื่อตามหารถปูน หลังได้ไปชนท้ายเอาไว้ วอนขอให้ติดต่อมาแสดงตัว ตนจะขอรับผิดชอบที่ไปชนท้าย
(14 ม.ค.68) ที่สำนักงาน คปภ.จังหวัดระยอง นายธนวัฒน์ อายุ 51 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 67 เวลา 18.00 น. ตนได้ขับรถขึ้นสะพานมาบข่า ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง มุ่งหน้าเข้าเมืองระยอง จังหวะขึ้นสะพานตนได้ขับมาด้วยความเร็วพอถึงกลางสะพานมีรถปูนและรถเทรลเลอร์ อยู่ทั้ง 2 เลน ตนจึงตัดสินใจพุ่งชนท้าย เพราะจังหวะนั้นใช้ความเร็ว ถ้าเบรกรถอาจจะหมุนและเสียหลักตกสะพานได้ จากนั้นตนก็สลบไป ส่วนรถปูนก็ขับไปหนีไปไม่ได้หยุดรอ กู้ภัยมาถึงก็ไม่มีรถปูนแล้ว
ตนฟื้นมาก็พยายามตามหารถปูนคันที่ตนได้ขับชนท้าย ตนต้องการเพียงให้เขาออกมาแสดงตัว ตนต้องการทะเบียนรถปูนว่าเป็นทะเบียนอะไร และถ้ารถปูนเสียหายตนก็จะชดใช้ซ่อมให้ด้วย เพราะตนทำประกันชั้น 3 ไว้ ตอนนี้ประกันไม่รับเคลม เพราะตนไม่มีทะเบียนคู่กรณี
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ให้รูปรถปูนมาแค่ 2 รูป ซึ่งไม่เห็นป้ายทะเบียน ตนไม่มีเงินที่จะไปซ่อมรถเอง เพราะช่างประเมินค่าซ่อมให้แสนกว่าบาท ตนก็ยังไม่มีเงิน จะคืนซากเขาให้แค่ 7 หมื่น ตนก็ยังไม่มีเงินไปซื้อคันใหม่
วันนี้ตนจึงมาเขียนคำร้องที่ สนง. คปภ. ตนต้องการให้ประกันซ่อมรถให้ตน แต่เจ้าหน้าที่เขาก็อธิบายให้ฟังแล้ว ประกันที่ตนทำมันต้องมีคู่กรณีและต้องมีทะเบียนรถ มีชื่อ จริงจะทำเรื่องเคลมได้ ตนจึงขอร้องให้รถปูนคันดั่งกล่าวช่วยออกมาแสดงตัวตน
นายขัตติยพงศ์ รุ่งบุญคง ผอ.สนง.ศปภ. จังหวัดระยอง เผยว่า เคสนี้ทางสนง.ก็ได้ให้เขาเขียนคำร้องไว้ แต่ขอฝากเตือนการทำประกันรถยนต์ ประเภทชั้น 2 3 หรือ 2+ 3+ ให้อ่านข้อกำหนดให้ละเอียดก่อนทำประกัน เพราะกรณีนี้หากไม่มีทะเบียนรถ ทางประกันก็ไม่สามารถดำเนินการซ่อมรถให้ได้ ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหาทะเบียนรถให้ อย่างไรก็ตามรถปูนช่วยออกมาแสดงตัวตนให้เขาได้รับผิดชอบและเขาจะได้ซ่อมรถให้ด้วย
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ราเมศ ชนะศุภกาญจน์ (รักษาการแทน).ผกก.สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง แล้ว ถึงความเดือดร้อนที่ประชาชนประสบอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมให้ในการช่วยเหลือประชาชนในทันที