ขับกระบะพาเมียไปหาหมอ เกิดวูบชนเสาตกถนน เจ็บ 1 ดับ 1
ขับกระบะพาเมียไปหาหมอ เกิดวูบชนเสาตกถนน เจ็บ 1 ดับ 1
หนุ่มใหญ่ขับรถจะพาเมียไปโรงพยาบาล เกิดวูบชนเสาไฟพลิกคว่ำตกถนนทับบ้านชาวบ้าน มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย
(21 ต.ค. 67) เวลา 06.30 น. ตำรวจ สภ.บางปู จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักปีนฟุตบาทพุ่งชนเสาไฟฟ้าก่อนพลิกคว่ำใส่บ้านเรือนประชาชน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนแพรกษา ขามุงหน้าปากน้ำ หมู่ 6 ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อม รถกู้ชีพโรงพยาบาลศิครินทร์ สมุทรปราการ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนแพรกษา เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะสีดำ สภาพพลิกตะแคง ลงไปอยู่ข้างทางภายในรั้วบ้านหลังดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือ แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากรถกระบะคันดังกล่าวนั้นทับหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ไว้ ต้องใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถนำตัวออกมาได้ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ น.ส.สุดารัตน์ อายุ 56 ปี มีแผลแตกที่มุมปาก และเจ็บหน้าอก เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่ง โรงพยาบาลศิครินทร์ สมุทรปราการ
ส่วนผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายจเร อายุ 58 ปี สภาพคอหัก เจ้าหน้าที่นำร่างออกมาจากรถก่อนนำส่งชันสูตร ในที่เกิดเหตุยังพบว่าเสาไฟฟ้าหัก จำนวน 1 ต้น รั้วบ้าน และกำแพงบ้านได้รับความเสียหาย
จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า ภรรยาไม่สบายกำลังเดินทางไปโรงพยาบาล ออกจากบ้านพักที่เอื้ออาทร 14 จนมาถึงจุดเกิดเหตุ สามีที่ขับรถมาเกิดอาการวูบทำให้รถเสียหลักปีนฟุตบาลจนพลิกคว่ำดังกล่าว
สอบถาม นายสุริยัน อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตอนนั้นตนนอนอยู่บนบ้าน เวลาประมาณ 6 โมงเช้าได้ยินเสียงดังโครม เลยรีบวิ่งลงมาดู ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือแต่ตนไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ ตนเลยโทรหากู้ภัยให้มาช่วย สักพักรถกู้ภัยพร้อมรถตัดถ่านก็มาถึง ตนได้แต่ร้องบอกให้คนเจ็บใจเย็นๆ ทำใจดีๆ ให้กำลังใจเขา หลังจากที่ผู้หญิงคนเจ็บออกมาได้เค้าบอกว่ามากัน 2 คนกับแฟน แล้วแฟนเขามีอาการวูบ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาคนเจ็บไปปฐมพยาบาล
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช อย่างไรก็ตามจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป