รวบพี่เขยลวงน้องเมีย 10 ขวบ ย่ำยีกลางทะเล-ถ่ายคลิปขาย
รวบพี่เขยลวงน้องเมีย 10 ขวบ ย่ำยีกลางทะเล-ถ่ายคลิปขาย
พี่เขยวัย 23 ร่วมมือกับเมียตัวเอง ลวงลูกพี่ลูกน้องของเมียอายุแค่ 10 ขวบ ขึ้นเรือประมงออกไปย่ำยีกลางทะเล ซ้ำร้ายยังถ่ายคลิปส่งขายหาเงินในกลุ่มลับ
(29 พ.ย. 67) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีตำรวจ(ตอท.), ตำรวจน้ำ, และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสีชัง จับกุมตัวนายเศรษฐวุฒิ อายุ 23 ปี ชาว จ.อ่างทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่ จ.537/2567 ลงวันที่ 28 พ.ย. ในความผิดฐาน กระทำชำเราเด็กที่อายุไม่ถึงสิบสามปีซึ่งไม่ใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยจับกุมได้ขณะอยู่บนเรือ ซึ่งจอดอยู่หลังเกาะสีชัง ห่างจากฝั่ง 1 กิโลเมตร
การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากสายตรวจไซเบอร์ และกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ตรวจสอบพบมีการประกาศขายสื่อลามกอนาจารเด็ก ในกลุ่มลับกลุ่มหนึ่งภายในแอพพลิเคชั่นเทเลแกรม ซึ่งมีสมาชิก 21,571 คน โดยคลิปวีดีโอดังกล่าวปรากฎภาพว่ามีเด็กหญิงอายุประมาณ 10-13 ปีถูกใช้กำลังบังคับล่วงละเมิดทางเพศบนเรือ จึงได้ทำการแกะรอยพิสูจน์ทราบ กระทั่งพิสูจน์ตัวของเด็กผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งตัวเหยื่อยังอยู่ใกล้ชิดกับผู้กระทำผิด ซึ่งเกรงว่าหากเนินช้าจะเกิดเหตุซ้ำขึ้นอีกได้ จึงได้เร่งดำเนินการติดตาม
ต่อมาพบว่าผู้ต้องหาได้มีการปล่อยตัวเด็กไว้ที่บริเวณฝั่งท่าเรือเกาะสีชัง ชุดสืบสวนจึงร่วมกับบ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง และสหวิชาชีพเข้าสอบถามปากคำเด็กผู้เสียหาย ทราบว่าผู้ต้องหาออกเรือไปอยู่บริเวณเกาะสีชัง จึงบูรณาการร่วมสภ.เกาะสีชัง และตำรวจน้ำ นำหมายจับเข้าจับกุมผู้ต้องหา
หลังถูกจับกุมผู้ต้องหายอมรับว่าเมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา ภรรยาของตนได้ออกอุบายชวนลูกพี่ลูกน้องเป็นเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ มาเที่ยวที่ จ.ชลบุรี เมื่อมาถึงได้พามาขึ้นเรือลำที่เกิดเหตุที่เกาะสีชัง ระหว่างอยู่บนเรือผู้ต้องหาได้ออกอุบายลวงเหยื่อ ก่อนกระทำชำเราล่วงละเมิดทางเพศ เหยื่อถูกกักขังอยู่ในเรือนานนับเดือน ถูกบังคับขืนใจกว่า 10 ครั้ง โดยในทุกครั้งภรรยาของนายเศรษฐวุฒิจะเป็นผู้บันทึกคลิปวีดีโอเก็บไว้
สำหรับการนำคลิปไปขายนั้นทางผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้เป็นคนนำคลิปไปขาย ตนเองเพียงแต่ส่งคลิปที่ถ่ายไว้ไปอวดเพื่อนๆ เท่านั้น แต่ยอมรับว่าทุกครั้งที่ส่งคลิปไปก็จะได้ค่าตอบแทน ครั้งละ 200-300 บาท
เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเตรียมแจ้งข้อหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารและแสวงหาผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์เพิ่มเติม และสั่งการให้ตำรวจไซเบอร์เร่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการ โดยเฉพาะผู้ที่ทำการเผยแพร่คลิปดังกล่าวลงไปขายในกลุ่ม อีกทั้งสั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งพิสูจน์ตัวบุคคลสมาชิก 21,571 คนในกลุ่มลับดังกล่าวมาดำเนินคดีเช่นกัน รรท.ผบช.สอท.กล่าว