โจรย่องงัดประตูโบสถ์ กวาดเงินบริจาคไปกว่า 2 หมื่นบาท คาดว่าคนใน

(8 ต.ค.67) พ.ต.ท.ปรัชญา เตชะ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.พันธ์ฤกษ์ สร้อยทองมูล สว.สส. , ร.ต.อ.ชัชวาลย์ จันทวงษ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.โพธาราม พร้อมตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังรับแจ้งว่า มีคนร้ายแอบเข้าไปงัดตู้บริจาค ภายในอุโบสถ 100 ล้าน ของวัดพระศรีอารย์ ต.บ้านเลือก

ที่เกิดเหตุ บริเวณประตูกระจกใต้โบสถ์ด้านหลัง พบร่องรอยคนร้ายงัดประตูกระจกเข้ามา และคนร้ายได้งัดกุญแจทางขึ้นโบสถ์ด้านหลัง ขึ้นไปที่ชั้นบนของอุโบสถ ที่ตู้รับบริจาคขนาดใหญ่ซึ่งทำจากกระจก ที่ตั้งอยู่หน้าพระประทาน เป็นตู้รับบริจาคร่วมกันเป็นตู้รับบูรณะอุโบสถ พบแบงก์ 20 ตกอยู่ที่พื้น 4 ใบ และพบรอยนิ้วมือแฝง ทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน มาทำการเก็บลายนิ้วมือ 

น.ส.พิณพร (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ดูแลเก็บกวาดเช็ดถูที่อุโบสถ เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 8 โมงเช้า ตนมาทำงานตามปกติ พอเปิดประตูโบสถ์ เตรียมจะทำความสะอาด ก็ไปพบกับชุดกรวดน้ำล้มอยู่ที่พื้น และพบแบงก์ 20 บาทตกอยู่ข้างตู้บริจาค และสังเกตที่กุญแจไม่ใช่ดอกที่ใช้งานอยู่ จึงรีบแจ้งไปที่ไวยาวัจกรวัดพระศรีอารย์มาดู จึงรู้ว่าคนร้ายแอบตัดเอากุญแจออกไป แล้วขโมยเงินทำบุญ ซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณ 20,000 กว่าบาท 

จากนั้น ก็นำกุญแจลูกใหม่ที่เตรียมมา ทำการล๊อกแทนลูกเก่า ส่วนเงินในตู้นั้นคนร้ายเอาไปไม่หมด ซึ่งลักษณะการขโมยเชื่อว่าเป็นคนในแน่นอน เพราะถ้าเป็นคนนอก ต้องกวาดเงินไปหมดตู้แน่ จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ ส่วนกล้องวงจรปิดของทางวัดนั้นเสียมาหลายเดือนแล้ว รอช่างมาทำการซ่อมอยู่

ต่อมา ชุดสืบสวนเดินหาร่องรอยของคนร้าย พบตู้รับบริจาคที่ทำจากปี๊บ นำมาติดตามเสาใต้อุโบสถจำนวน 44 ใบ บางใบก็ถูกคนร้ายแอบเจาะปี๊บ แล้วล้วงเอาเงินที่ญาติโยมมาบริจาคไป ซึ่งการทำแบบนี้จะต้องเป็นคนในแน่นอน และตู้รับบริจาคที่ทำจากปี๊บนั้น คาดว่า คนร้ายน่าจะเข้ามาล้วงเอาเงินไปทุกวัน โดยทางวัดไม่รู้เลย ซึ่งทางวัดแห่งนี้ มักจะมีคนร้ายเข้ามาขโมยเงินในตู้รับบริจาคบ่อยมาก และครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 67 มีคนร้ายเข้าไปลักตู้บริจาค บริเวณศาลพ่อปู่ดำ-ปู่ขาว อยู่ข้างอุโบสถหลังเก่า และได้นำตู้เหล็กไปทิ้งท้ายวัด จนมาครั้งนี้ผ่านไปประมาณ 2 เดือน ก็มาเกิดเหตุอีก

จากเหตุการณ์ดังกล่าว พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม ได้ประสานไปยังทางอำเภอโพธาราม สำนักพุทธศาสนา พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันบูรณาการ ทำการตรวจปัสสาวะพระและลูกศิษย์พระทั้งหมด ผลการตรวจฉี่ พระและลูกศิษย์พระที่เป็นเจ้าหน้าที่วัด จำนวน 15 ราย ไม่พบฉี่สีม่วงแต่อย่างไร แต่ยังมีพระลูกวัดอีก 1 รูป ที่ออกกิจนิมนต์ และยังมีลูกศิษย์พระอีกหลายคน พอรู้ข่าวก็หลบหน้าไม่ยอมมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจฉี่ เพื่อแสดงความบริสุทธิใจ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ จะได้ติดตามตัวลูกศิษย์พระที่หลบหน้ามาทำการตรวจฉี่และตรวจดีเอ็นเอทั้งหมดด้วย

จากนั้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการตรวจหาลายนิ้วมือแฝง ที่ติดอยู่ตามตู้รับบริจาค เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการติดตามคนร้าย มาดำเนินคดีต่อไป