กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อกว่า 100 คน บุกสภ.บางศรีเมือง จี้ "ต้าวแว่น มาสด้าแดง" ออกมาขอโทษ

กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อกว่า 100 คน บุกสภ.บางศรีเมือง จี้ "ต้าวแว่น มาสด้าแดง" ออกมาขอโทษ

59909 มี.ค. 68 18:30   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อกว่า 100 คน บุกสภ.บางศรีเมือง แอดมินสองล้อจี้ "ต้าวแว่น มาสด้าแดง" ออกมาขอโทษ – หยุดขับขี่จนกว่าศาลตัดสิน

(9 มี.ค.68) จากกรณีกลุ่มปลดแอกชาวสองล้อ พร้อมด้วยกลุ่ม “G เคลื่อนที่เร็วเราช่วยกัน” และ “สายลุยคุยกับด่าน” ได้รวมตัวกันกว่า 100 คน โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ติดป้ายข้อความ “ความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็คือความไม่ยุติธรรม” ก่อนเดินทางไปยัง สภ.บางศรีเมือง มีการรวมตัวถ่ายภาพบริเวณด้านหน้าโรงพัก ก่อนนำหนังสือยื่นต่อ พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.บางศรีเมือง เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดี


หลังจากนายภีรสิทธิ์ อายุ 47 ปี แอดมินกลุ่ม “ปลดแอกชาวสองล้อ” และนายอริยะพงษ์ อายุ 49 ปี แอดมินเพจ “จอห์น ไรเดอร์” ได้เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือ และพูดคุยกับพ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชม. ในการชี้แจงเรื่องความคืบหน้าคดี 


นายอริยะพงษ์ เผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาสภ.บางศรีเมืองเพื่อให้ติดตามคดี และให้ดำเนินคดีโดยเร็วกับเก๋งมาสด้าแดง หลังพบว่าผู้ก่อเหตุยังสามารถขับขี่ได้ตามปกติ โดยวันนี้ทางตัวแทนได้เข้าพูดคุยกับผกก.บางศรีเมือง ได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (8 มี.ค.68) ผู้ก่อเหตุได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกเรียกตัวเข้าพบมาแล้วเมื่อ 5 วันก่อน โดยทางคดีตำรวจขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานกล้องหน้ารถ กล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ 


แต่ทางผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งเรื่อง “ทำให้เสียทรัพย์” ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ส่วนในประเด็นเรื่องการยึดใบขับขี่ ตำรวจระบุว่า ไม่มีอำนาจดำเนินการ เนื่องจากเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก 


ตนมองว่าการดำเนินคดีในกรณีนี้มีความล่าช้า และสะท้อนถึงความไม่เป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมาย โดยยกตัวอย่างกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งมีวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ยกล้อ ถูกตำรวจยึดรถและดำเนินคดีทันที แต่กลับพบว่า “มาสด้าแดง” ยังคงสามารถขับขี่ได้ ซึ่งบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ควรได้รับอนุญาตให้ขับรถ หากมีปัญหาทางจิต ก็ควรเข้ารับการรักษาก่อนกลับมาขับขี่ได้พร้อมเรียกร้องให้กรมการขนส่งทางบกออกมาชี้แจงมาตรการจัดการกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมอันตรายบนท้องถนน อย่างไรก็ตามตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกันทางกลุ่มปลดแอกสองล้อ และชาวสองล้ออีกหลายกลุ่ม จะเดินทางร้องเรียนความเป็นธรรมต่อที่กรมขนส่ง ซึ่งอยู่ระหว่างพูดคุย 


ด้านนายภีรสิทธิ์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่งผลให้ “มาสด้าแดง” ยังคงสามารถขับขี่ได้ตามปกติ แต่ทางผู้กำกับแจ้งว่า เจ้าของรถที่เดินทางมาพบตำรวจได้รับปากกับตำรวจว่าจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้อีก แต่ไม่มีหลักประกันใด ๆ ว่าเขาจะปฏิบัติตาม ตนกังวลเรื่องความปลอดภัยของชาวสองล้อ เนื่องจากพฤติกรรมที่เขาทำส่งผลต่อคนหลายคนที่อยู่บนท้องถนน 


ทั้งนี้ทางตำรวจแจ้งอีกว่า หากประชาชนพบเห็นรถคันดังกล่าวก่อเหตุ สามารถนำหลักฐานแจ้งที่ สภ.บางศรีเมือง ได้ทันที โดยคดีจราจรมีอายุความ 1 ปี อย่างไรก็ตาม ภีรสิทธิ์ตั้งคำถามถึงกระบวนการบังคับใช้กฎหมายว่าเหตุใดจึงต้องรอให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรือมีผู้เสียชีวิตก่อน จึงจะมีการดำเนินคดีอย่างจริงจัง


นายภีรสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้พยายามติดต่อพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเพื่อให้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม แต่กลับถูกปฏิเสธ และเลือกที่จะเข้าพบตำรวจอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีการแสดงออกถึงการสำนึกผิด ส่วนที่เดินทางมาวันนี้ได้มาเรียกร้องใน 3 ประเด็นหลักกับตำรวจ คือ 1.เร่งรัดให้คดีดำเนินไปจนถึงที่สุด 2.ยึดใบขับขี่ของผู้ก่อเหตุ 3.ออกมาตรการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับคำตอบจากตำรวจหมดแล้ว


นายภีรสิทธิ์ ยังฝากข้อความถึงผู้ก่อเหตุให้แสดงความรับผิดชอบที่ตนเขียนผ่านหนังสือมา 4 ข้อดังนี้ 1.ออกมาแสดงตนในความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยความจริงใจ 2.หยุดการขับขี่รถทุกประเภท จนกว่าจะมีคำสั่งตัดสินของศาล 3. ยุติการเผยแพร่วิดีโอที่ก่อให้เกิดอันตราย และสร้างความแตกแยกในสังคมทุกช่องทาง 4. มาตักเตือนคนที่จะคิดเลียนแบบพฤติกรรมที่ก่อความเดือดร้อนอันตรายกับผู้อื่นบนถนน 


แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกคนชาวสองล้อที่เดินทางมาวันนี้ ยังไม่เชื่อกับคำกล่าวอ้างจาก “ต้าวแว่น มาสด้าแดง” ที่พูดกับตำรวจว่าจะเลิกพฤติกรรมแบบนี้ จนกว่าจะเข้ามาพูดคุยหรือออกมาขอโทษสังคมอย่างจริงใจ แต่ทุกคนนั้นอยากให้เขาเลิกขับรถไปเลย หรือเปลี่ยนมาจ้างคนขับแทน เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก


(9 มี.ค.68) จากกรณีกลุ่มปลดแอกชาวสองล้อ พร้อมด้วยกลุ่ม “G เคลื่อนที่เร็วเราช่วยกัน” และ “สายลุยคุยกับด่าน” ได้รวมตัวกันกว่า 100 คน โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ติดป้ายข้อความ “ความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็คือความไม่ยุติธรรม” ก่อนเดินทางไปยัง สภ.บางศรีเมือง มีการรวมตัวถ่ายภาพบริเวณด้านหน้าโรงพัก ก่อนนำหนังสือยื่นต่อ พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.บางศรีเมือง เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดี


หลังจากนายภีรสิทธิ์ อายุ 47 ปี แอดมินกลุ่ม “ปลดแอกชาวสองล้อ” และนายอริยะพงษ์ อายุ 49 ปี แอดมินเพจ “จอห์น ไรเดอร์” ได้เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือ และพูดคุยกับพ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชม. ในการชี้แจงเรื่องความคืบหน้าคดี 


นายอริยะพงษ์ เผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาสภ.บางศรีเมืองเพื่อให้ติดตามคดี และให้ดำเนินคดีโดยเร็วกับเก๋งมาสด้าแดง หลังพบว่าผู้ก่อเหตุยังสามารถขับขี่ได้ตามปกติ โดยวันนี้ทางตัวแทนได้เข้าพูดคุยกับผกก.บางศรีเมือง ได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (8 มี.ค.68) ผู้ก่อเหตุได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกเรียกตัวเข้าพบมาแล้วเมื่อ 5 วันก่อน โดยทางคดีตำรวจขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานกล้องหน้ารถ กล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ 


แต่ทางผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งเรื่อง “ทำให้เสียทรัพย์” ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ส่วนในประเด็นเรื่องการยึดใบขับขี่ ตำรวจระบุว่า ไม่มีอำนาจดำเนินการ เนื่องจากเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก 


ตนมองว่าการดำเนินคดีในกรณีนี้มีความล่าช้า และสะท้อนถึงความไม่เป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมาย โดยยกตัวอย่างกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งมีวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ยกล้อ ถูกตำรวจยึดรถและดำเนินคดีทันที แต่กลับพบว่า “มาสด้าแดง” ยังคงสามารถขับขี่ได้ ซึ่งบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ควรได้รับอนุญาตให้ขับรถ หากมีปัญหาทางจิต ก็ควรเข้ารับการรักษาก่อนกลับมาขับขี่ได้พร้อมเรียกร้องให้กรมการขนส่งทางบกออกมาชี้แจงมาตรการจัดการกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมอันตรายบนท้องถนน อย่างไรก็ตามตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกันทางกลุ่มปลดแอกสองล้อ และชาวสองล้ออีกหลายกลุ่ม จะเดินทางร้องเรียนความเป็นธรรมต่อที่กรมขนส่ง ซึ่งอยู่ระหว่างพูดคุย 


ด้านนายภีรสิทธิ์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่งผลให้ “มาสด้าแดง” ยังคงสามารถขับขี่ได้ตามปกติ แต่ทางผู้กำกับแจ้งว่า เจ้าของรถที่เดินทางมาพบตำรวจได้รับปากกับตำรวจว่าจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้อีก แต่ไม่มีหลักประกันใด ๆ ว่าเขาจะปฏิบัติตาม ตนกังวลเรื่องความปลอดภัยของชาวสองล้อ เนื่องจากพฤติกรรมที่เขาทำส่งผลต่อคนหลายคนที่อยู่บนท้องถนน 


ทั้งนี้ทางตำรวจแจ้งอีกว่า หากประชาชนพบเห็นรถคันดังกล่าวก่อเหตุ สามารถนำหลักฐานแจ้งที่ สภ.บางศรีเมือง ได้ทันที โดยคดีจราจรมีอายุความ 1 ปี อย่างไรก็ตาม ภีรสิทธิ์ตั้งคำถามถึงกระบวนการบังคับใช้กฎหมายว่าเหตุใดจึงต้องรอให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรือมีผู้เสียชีวิตก่อน จึงจะมีการดำเนินคดีอย่างจริงจัง


นายภีรสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้พยายามติดต่อพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเพื่อให้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม แต่กลับถูกปฏิเสธ และเลือกที่จะเข้าพบตำรวจอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีการแสดงออกถึงการสำนึกผิด ส่วนที่เดินทางมาวันนี้ได้มาเรียกร้องใน 3 ประเด็นหลักกับตำรวจ คือ 1.เร่งรัดให้คดีดำเนินไปจนถึงที่สุด 2.ยึดใบขับขี่ของผู้ก่อเหตุ 3.ออกมาตรการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับคำตอบจากตำรวจหมดแล้ว


นายภีรสิทธิ์ ยังฝากข้อความถึงผู้ก่อเหตุให้แสดงความรับผิดชอบที่ตนเขียนผ่านหนังสือมา 4 ข้อดังนี้ 1.ออกมาแสดงตนในความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยความจริงใจ 2.หยุดการขับขี่รถทุกประเภท จนกว่าจะมีคำสั่งตัดสินของศาล 3. ยุติการเผยแพร่วิดีโอที่ก่อให้เกิดอันตราย และสร้างความแตกแยกในสังคมทุกช่องทาง 4. มาตักเตือนคนที่จะคิดเลียนแบบพฤติกรรมที่ก่อความเดือดร้อนอันตรายกับผู้อื่นบนถนน 


แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกคนชาวสองล้อที่เดินทางมาวันนี้ ยังไม่เชื่อกับคำกล่าวอ้างจาก “ต้าวแว่น มาสด้าแดง” ที่พูดกับตำรวจว่าจะเลิกพฤติกรรมแบบนี้ จนกว่าจะเข้ามาพูดคุยหรือออกมาขอโทษสังคมอย่างจริงใจ แต่ทุกคนนั้นอยากให้เขาเลิกขับรถไปเลย หรือเปลี่ยนมาจ้างคนขับแทน เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

จยย.บิ๊กไบค์ เผยนาทีถูกเก๋งคู่กรณีบีบแตรไล่เฉี่ยวชน จ่อแจ้งความพยายามฆ่า

คนขับ 'เก๋งสีแดง' ประสาน ตร.เข้าให้ปากคำ

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat