“บอสพอล” วอนลบคลิป ยันไม่เคยจ่ายเงินให้นักการเมือง ส.

“บอสพอล” วอนลบคลิป ยันไม่เคยจ่ายเงินให้นักการเมือง ส.

46815 ต.ค. 67 13:50   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“บอสพอล” โพสต์วอนลบคลิปเสียง ระบุเป็นคลิปเก่า ไม่ใช่การเคลียร์คดีแค่ต้องการให้มาเป็นที่ปรึกษาบริษัท - ยืนยันไม่เคยจ่ายเงินหรือสินทรัพย์กับนักการเมือง ส.ที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

(15 ต.ค. 67) จากกรรีที่วานนี้มีการเปิดเผยคลิปเสียง ซึ่งระบุว่าเป็นการพูดคุยกันระหว่าง พอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป กับนักการเมืองคนหนึ่ง โดยเนื้อหาในคลิปเสียงระบุว่านักการเมืองบอกให้นายวรัตน์พลจ่ายเงินให้ตนเพิ่ม จากนั้นนายวรัตน์พลต้องการอะไรก็จะได้ตามต้องการ


ซึ่งนายวรัตน์พล ยอมรับว่าเสียงในคลิปนั้นคือเสียตนจริง แต่ขอไม่ระบุว่าปลายสายอีกฝั่งเป็นใคร ล่าสุดวันนี้ นายวรัตน์พลได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า


“ขอวิงวอนสื่อลบคลิปที่ผิดกฏหมายทั้งหมด เพราะทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น…ผมรู้สึกผิดมาก  ที่มีคนพาดพิง ไปที่นักการเมือง ส. ผมเองรู้สึกแย่มากที่ต้องทำให้ท่านต้องมาเดือดร้อน ผมขอบอกเลย ผมไม่เคยให้เงินนักการเมือง ส.  ตามที่ข่าวออกเลยแม้แต่บาทเดียว 


และคลิปนั้นเก่ามากแล้ว หลายปีแล้ว ไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี ที่บอกจะให้เป็นรายเดือน ก็เป็นเพียงแนวคิดจะให้มาเป็นที่ปรึกษาบริษัทเพียงเท่านั้น    โดยสุดท้ายก็ไม่มีการว่าจ้าง หรือโอนเงินให้เลย ดังนั้นข่าวที่บอกว่าผมโอนเงินให้รายเดือนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด  ผมเองมานอนคิด แล้วรู้สึกว่าทำให้  ท่าน ส  นั้นเสียหายอย่างมาก จึงควรต้องออกมาชี้แจงผมขอกราบเท้าขอโทษ ท่าน มา ณ  ที่นี้ด้วยครับ ที่ทำให้ท่านเสียหาย ในการให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส 


ผมต้องกราบขอโทษท่านอีกครั้ง ผมขอยืนยันไม่เคยโอนเงิน  ไม่เคยให้เงินหรือสินทรัพย์ใดๆ แก่ท่านเลย เพียงแต่ในช่วงเวลานั้นๆ จะติดต่อให้ท่านมาเป็นที่ปรึกษาบริษัทก็เท่านั้น แต่ด้วยช่วงเวลาไม่ตรงกันจึงไม่ได้เชิญท่านมาแต่อย่างใด


ท้ายสุดนี้ ผมขอวิงวอนสื่อมวลชนทุกสื่อ ช่วยลบคลิปนั้นออกด้วยเพราะมันทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น  และไม่มีเนื้อหาความเป็นจริง ตามที่สื่อนำเสนอเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นผมจึงขอความกรุณาให้ทุกคน ทุกแพลตฟอร์ม ลบคลิปทั้งหมดที่ มิชอบด้วยกฏหมายภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ก่อนเวลา 23.59 น.  มิเช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฏหมาย เรื่องดักฟัง และ  นำข้อมูลไปเผยแพร่ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี  และ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท”



ทั้งนี้มีรายงานว่าหลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าวไปได้ไม่นาน นายวรัตน์พลได้ลบข้อความดังกล่าวออกแล้ว



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง