"สันธนะ" ฟ้อง 'เพจดัง' กล่าวหารีดบ่อนพนันโคราช 2 ล้าน

"สันธนะ" ฟ้อง 'เพจดัง' กล่าวหารีดบ่อนพนันโคราช 2 ล้าน

53501 พ.ย. 67 13:15   |     AdminNews

"สันธนะ" ร้องตำรวจฟ้องเพจ "อีซ้อขยี้ข่าว" หมิ่นประมาท ถูกกล่าวหารีดบ่อนพนันโคราช 2 ล้าน พร้อมเปิดเผยพฤติกรรมใช้ Fake News ในการโจมตีผู้เปิดโปงการทุจริต

1 พ.ย.67 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความเอาผิด กับเพจ facebook อีซ้อขยี้ข่าวที่กล่าวหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง 

โดยนายสันธนะกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้เบาะแสเข้าตรวจสอบบ่อนพนัน 2 บ่อนที่อยู่ใน จ.นครราชสีมา ซึ่งในจำนวนนี้มีบ่อนที่ปรากฏชื่อเจ้าของเป็นตำรวจและพบข้อมูลการจ่ายค่าคุ้มครองให้กับตำรวจ โดยหนังสือดังกล่าวตนทำเป็นหนังสือลับ 


แต่ปรากฏว่ามีผู้ใช้บัญชี Facebook ซึ่งเป็นชื่อชาวเมียนมา แต่รูปโปรไฟล์ใช้รูปนายตำรวจ นำหนังสือดังกล่าวไปโพสต์ในกลุ่มเพจ Facebook อีซ้อขยี้ข่าว กล่าวหา ตนเองด้วยถ้อยคำหยาบคายอ้างว่า ข่มขู่บ่อนการพนัน เพราะไม่เคลียร์เงินให้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และข้อมูลบ่อนที่ตนส่งมอบเป็นเบาะแสให้กับตำรวจก็เป็นเรื่องจริง เรื่องนี้ถือเป็นการกล่าวหาที่ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนเลยเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ซึ่งเป็นท้องที่ที่ตนพบเจอเรื่องดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา 


นายสันธนะยังกล่าวอีกว่า นอกจากประเด็นที่ตนมาแจ้งความเพื่อเอาผิดข้อความดังกล่าวแล้ว ตนยังต้องการที่จะให้เพจอีซ้อขยี้ข่าวถูกปิด ซึ่งหมายรวมไปถึงกลุ่มดังกล่าวด้วย โดยนายสันธนะเปิดโปงว่า เพจดังกล่าวนั้นได้สร้างกลุ่มขึ้นมาเพื่อนำเจ้าหน้าที่ของรัฐมาแฝงตัวเป็นสมาชิกและปล่อยข้อมูล Fake News กล่าวหาบุคคลอื่นที่ทำให้เสียประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเพจปลอมหรือไม่ก็ตาม 

ซึ่งในกรณีนี้ตนเชื่อว่าเป็นฝีมือของคนในวงตำรวจที่ตนไปร้องเรียนแจ้งเบาะแสแน่นอน เพราะนำหนังสือลับทางราชการมาเปิดเผยและใช้ Facebook ชาวเมียนมามาโพสต์ ซึ่งเชื่อว่าชาวเมียนมาไม่มีสิทธิ์เข้าถึงหนังสือลับฉบับนี้ได้ โดยเหตุผลเกิดจากการที่ตนเปิดโปงเรื่องดังกล่าวทำให้เกิดการเสียผลประโยชน์ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง จึงอาศัยใช้เพจนี้มาเป็นเครื่องมือในการทำให้ตนเสื่อมเสีย 


อีกทั้งเพจดังกล่าวนั้นก็เป็นเพจที่สังคมและสื่อมวลชนนำไปใช้เป็นแหล่งข่าวจากการที่เพจนี้นำข้อมูลต่าง ๆ มาแฉ แต่จริงเท็จอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ ซึ่งที่จริงแล้ว เป็นการหลอกล่อใช้สื่อมวลชนและสังคมเป็นเครื่องมือในการโจมตีบุคคลอื่น ซึ่งเพจลักษณะแบบนี้นั้น เมื่อรับงานมาจากคนในหน่วยงานของรัฐแล้ว ก็จะมีงานเรียกเงินค่าตอบแทน โดยก่อนหน้านี้เคยมีเพจลักษณะเดียวกันที่เรียกค่าตอบแทนสูงถึง 10 ล้านกว่าบาท ซึ่งเพจอีซ้อขยี้ข่าวตนก็เชื่อว่ามีลักษณะพฤติกรรมแบบเดียวกัน 


ตนจึงอยากจะบอกผ่านสื่อมวลชนไปถึงประชาชนว่า เพจเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้และเป็นเพียงเครื่องมือของคนในหน่วยงานรัฐที่ใช้เล่นงานคนที่ทำให้เสียผลประโยชน์ รวมทั้งเป็นแหล่งปล่อยข้อมูล Fake News ที่สื่อมวลชนไม่ควรให้คุณค่า จึงหวังว่าทางตำรวจ สน.ลุมพินี จะสามารถส่งเรื่องให้ทางตำรวจไซเบอร์ดำเนินการปิดเพจดังกล่าวได้ 


ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามว่า จากกรณีที่เพจอีซ้อขยี้ข่าวได้พยายามเปิดโปงเกี่ยวกับคดีดังที่เกิดขึ้นในตอนนี้ การอาศัยจังหวะนี้ในการร้องเรียนเพจดังกล่าวถือว่าเป็นการ เปลี่ยนประเด็นหรือไม่ นายสันธนะระบุว่าไม่เกี่ยว ส่วนที่เพจนั้นจะเปิดโปงคดีดังนั้นก็ทำไป แต่อยากให้สังคมรู้ว่าเพจนี้นั้นเป็นเพียงเครื่องมือในการปล่อย Fake News ในหลายกรณีและมีไว้บ่อนทำลายคนขัดผลประโยชน์ผู้มีอำนาจในหน่วยงานของรัฐ

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง