ผอ.ป.ป.ช.ตรวจ รพ. ชี้เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ-ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา
ผอ.ป.ป.ช.ตรวจ รพ. ชี้เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ-ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา
ผอ.ป.ป.ช.บุกตรวจโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ ชี้เจ้าหน้าที่ซ้อมหนุ่มมาบำบัดเลิกเหล้าดับทำเกินกว่าเหตุ ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา - โรงพยาบาลแจงกุญแจมือไม่ใช่ของโรงพยาบาล
(11 ธ.ค. 67) จากกรณี เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นายสะอาด อายุ 31 ปี ชาวตำบลขนุน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์หลังถูกเจ้าหน้าที่พยาบาล 4 คน จับทุ่ม และทุบตี จนคาดว่าเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต ตามที่มีการนำเสนอข่าวออกไปแล้วนั้น
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ นายอดุลย์ วันดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดศรีสะเกษ พร้อม คณะ ได้เดินทางมาที่ห้องประชุมชั้น 5 โรงพยาบาลกันทรลักษ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับฟังข้อมูล ระเบียบ มาตฐานการดูแลผู้ป่วยกลุ่มติดเหล้า ติดยาเสพติด และกลุ่มจิตเวช โดย นายแพทย์ลักษณะเลิศ วรรณภาสนี ผอ.โรงพยาบาลกันทรลักษ์ และคณะแพทย์ พยาบาล ให้การต้อนรับ หลังจบการประชุม นายแพทย์ลักษณะเลิศ วรรณภาสนี ผอ.โรงพยาบาลกันทรลักษ์ ได้พาคณะ ปปช. ไปเดินดูจุดต่างๆ และเส้นทางการรับผู้ป่วย ไปจนถึงจุดที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ก่อนจะมาดูกล้องวงจรปิดช่วงเกิดเหตุภายในห้องประชุมชั้น 5 โรงพยาบาลกันทรลักษ์
นายอดุลย์ วันดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ที่มีการทำร้ายผู้ป่วยจนทำให้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลของรัฐ และมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ป.ป.ช.ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และตรวจสอบในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย จากการได้เข้าร่วมประชุม ทางโรงพยาบาลได้ชี้แจงมา ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ตามมาตรฐานในการดูแลผู้ป่วยไม่ได้กำหนดให้ปฏิบัติตามปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด แนวทางในการดำเนินการของ ป.ป.ช.ตอนนี้ทางญาติผู้เสียชีวิตได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้ว ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ว่ามีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำบ้าง ในที่เกิดเหตุตามปรากฏในภาพมี 4 คน มีพยาบาลวิชาชีพ 2 คน พนักงานและลูกจ้างอีก 2 คน ล่าสุดได้มีการสั่งพักงานพนักงานและลูกจ้าง 2 คน ส่วนพยาบาลยังต้องรอกระบวนการในการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและการลงโทษตามระเบียบและขั้นตอนต่อไป
ด้าน นายแพทย์ลักษณะเลิศ วรรณภาสนี ผอ.โรงพยาบาลกันทรลักษ์ เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าภาพวงจรปิดที่ออกไปนั้น เป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลหญิง 2 ท่าน และ ชาย 2 คน เป็นพนักงานสาธารสุข และลูกจ้าง ซึ่ง ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวมันแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เข้าควบคุม ไม่ได้ทำตามมาตฐานที่มี และต้องยอมรับว่าเป็นการกระทำเกิดกว่าเหตุจริงๆ ส่วนเรื่องกุญแจมือที่เห็นภาพกล้องวงจรปิดนั้น ไม่ใช่ของโรงพยาบาลกันทรลักษ์ เป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง ที่ทิ้งไว้ตอนมาส่งผู้ป่วย ยอมรับมาตการณ์ในการควบคุมผู้ป่วยไม่มีการใส่กุญแจมือแต่อย่างใด
ผอ.โรงพยาบาลกันทรลักษ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะที่ ตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ชายที่อยู่ในภายกล้องวงจรปิดแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่พยาบาล 2 ราย ตอนนี้ได้มีการตั้งคณะการมการสอบข้อเท็จอยู่ รู้ให้มีการชี้มูลถึงจะดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่ รมว.กระทรวงสาธารณสุข มีการสั่งย้ายให้ ผอ.โรงพยาบาลกันทรลักษ์ เข้าไปทำงานที่ส่วนกลาง นั้น ด้าน ผอ.โรงพยาบาลกันทรลักษ์ เปิดเผยว่า ส่วนตัวตนยังไม่ทราบข่าว แต่ถ้ามีคำสั่งให้ตนย้ายจริง ตนก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
ความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้นำสอบปากคำพยานแวดล้อม และรวบรวมหลักฐาน และเตรียมแจ้งข้อหากับผู้กระทำผิดในครั้งนี้ ส่วนจะแจ้งข้อหากี่คนนั้น ต้องดูบริบท และเจตนาในการกระทำ ซึ่งขณะนี้อยู่ในรูปแบบของการสอบสวนอยู่