บุกจับลูกจ้างโรงพยาบาลรัฐ ออกใบกำกับภาษีปลอม

บุกจับลูกจ้างโรงพยาบาลรัฐ ออกใบกำกับภาษีปลอม

96018 มี.ค. 68 20:23   |     Tum1

บุกจับลูกจ้างโรงพยาบาลรัฐ ออกใบกำกับภาษีปลอม อ้างถูกเซลส์แมนขายเครื่องมือแพทย์ชักชวนหารายได้พิเศษ

(18 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ปฏิภาณ เป็นสุข สว.กก.2 บก.ปอศ. , ร.ต.อ.อภินันท์ พจน์มนต์ปิติ รอง สว.กก.2 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วย กก.4 บก.ทล. และ สภ.สีชมพู ร่วมกันจับกุมนายเฉลิมชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี บริเวณหน้าโรงพยาบาลในพื้นที่ ต.วังเพิ่ม อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.155/2568 ลงวันที่ 11 มี.ค.68 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออก” ตามมาตรา 86/13 และ มาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร 

 

สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหามีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท ซึ่งประกอบกิจการรับซื้อขยะ ที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ทั่วประเทศ (ซื้อขายของเก่า) มีการจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่มีพฤติการณ์ ออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าหรือให้บริการระหว่างกันจริง โดยพบใบกำกับภาษีที่มีชื่อบริษัทดังกล่าว เป็นผู้ออกใบกำกับภาษี จำนวน 138 ฉบับ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ประเมินความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านบาท และเข้าข่ายลักษณะเป็นการออกใบกำกับภาษีโดยที่ไม่มีสิทธิออก


ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาจะมาปรากฏตัวในบริเวณหน้าโรงพยาบาล ในพื้นที่ ต.วังเพิ่ม อ.สีชมพู เจ้าหน้าที่จึงได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์ เมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัว จึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจสอบและพบว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง จึงจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมาย



สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยแจ้งว่า เมื่อประมาณปี 2558 ตนรับราชการอยู่ภายในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง และได้มีกลุ่มบุคคล ซึ่งเป็นพนักงานขายเครื่องมือแพทย์ ได้ชักชวนให้หารายได้พิเศษ โดยการนำบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านมามอบให้กลุ่มบุคคลดังกล่าว พร้อมให้ลงลายมือชื่อไปยังเอกสารบางอย่าง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเอกสารใด โดยอ้างว่าจะนำไปประกอบการเสนอขายเครื่องมือแพทย์ในสถานที่ต่างๆ และจะได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้ง หากสามารถขายสินค้าได้ 

ผู้ต้องหาหลงเชื่อ จึงมอบเอกสารดังกล่าว ให้แก่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไป ซึ่งก็ได้รับค่าตอบแทนจริงเป็นจำนวนกว่า 10 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1,000 - 2,000 บาท และเมื่อช่วงประมาณเดือน ก.พ.68 ผู้ต้องหาได้รับหมายเรียก แต่ไม่ได้ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จนมาทราบภายหลังว่ามีหมายจับดังกล่าว - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง