น้ำเหนือทะลุคันดินแนวกันไฟเมืองชัยนาท ท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลัง

น้ำเหนือทะลุคันดินแนวกันไฟเมืองชัยนาท ท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลัง

27406 ต.ค. 67 19:13   |     Tum1

น้ำเหนือทะลุคันดินแนวกันไฟเมืองชัยนาท ท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลัง ขณะเขื่อนเจ้าพระยาเร่งพร่องน้ำต่อเนื่อง

วันที่ 6 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เอ่อสูง ทำให้คันดินแนวกันไฟของชุมชน ขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร สูง 1 เมตร เกิดน่วมทะลุ ทำให้มีน้ำหลากเข้าพื้นที่ต่ำริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ของชุมชนนอกคันกั้นน้ำ พื้นที่ ม.4 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท มีบ้านเรือนประชาชนจำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง 

บางรายไม่ทันได้เก็บของ เพราะไม่คาดคิดว่า น้ำจะเอ่อล้นเข้ามาในช่วงนี้ คิดว่าคันดินแนวกันไฟจะช่วยกันน้ำเอาไว้ได้ แต่ก็ผิดคาด โดยประชาชนจำนวนมาก ต้องรีบขนของเท่าที่พอจะขนทัน ขึ้นไว้บนที่สูง ส่วนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ก็เอาขึ้นมาไว้บนถนน ที่เจ้าหน้าที่ท้องที่เอาเต็นท์มากางให้ใช้งานชั่วคราว



ทีมข่าวสำรวจในพื้นที่ชุมชน พบว่า ระดับน้ำที่ท่วมขังมีตั้งแต่ 30 ซม.ไปจนถึง 1.5 เมตร ตามความลุ่มดอนของพื้นที่แต่ละจุด โดยชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า ปกติพื้นที่ในแถบนี้จะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ถูกท่วมทุกครั้งที่ปริมาณน้ำเหนือหลากลงมามาก แต่เมื่อมีคันดินแนวกันไฟที่ทำขึ้นไม่นานนี้ ก็พอช่วยได้ในกรณีน้ำน้อย แต่มาในปีนี้น้ำเหนือมามาก ทำให้คันดินที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกั้นน้ำ ทะลุได้อย่างง่ายดาย โดยชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวดังกล่าว



ล่าสุด สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ได้คงอัตราการระบาย เพื่อรองรับมวลน้ำเหนือ และพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยา ผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ลดลงเล็กน้อยล่าสุด (18.00น.) วัดได้ 2,379 ลบ.ม./วิ ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา ได้คงการระบายไว่ที่ 2,199 ลบ.ม./วิ เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน รวมทั้ง สร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับปริมาณน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ยกตัวขึ้น 28 ซม.ใน 24 ชั่วโมง ล่าสุดวัดได้ 17.30 ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง)

ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น 60 ซม.ในรอบ 24 ชั่วโมง ล่าสุดวัดได้ 15.10 ม.รทก. โดยพรุ่งนี้ (7ต.ค.) เขื่อนเจ้าพระยา มีแผนจะเพิ่มการระบาย ขึ้นไปที่เกณฑ์ไม่เกิน 2,300 ลบ.ม./วิ



ทั้งนี้ จากการระบายน้ำในเกณฑ์ไม่เกิน 2,200 ลบ.ม./วิ ในปัจจุบัน จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไปที่ จ.สิงห์บุรี , จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 10-20 ซม.ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง