พ่อตาฟันลูกเขย 7 แผลคอหวิดขาดดับคาที่ข้างประตูรั้ว
พ่อตาฟันลูกเขย 7 แผลคอหวิดขาดดับคาที่ข้างประตูรั้ว

พ่อตาฟันลูกเขย 7 ดับคาที่ หลังหมั่นไส้ไม่นับถือ เมียสาวแปลงเพศของผู้ตายสาปแช่งขอให้ประหารชีวิตพ่อของตัวเอง
(26 พ.ค.68) ศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งเหตุ พ่อตากับลูกเขยใช้มีดทำร้ายกัน เหตุเกิดหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 13 ตำบลหนองบัว เขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู ไม่ห่างจากโรงพยาบาลหนองบัวลำภูมากนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ชีพ 1669 เดินทางไปถึงพบว่า ผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงแจ้งแพทย์เวร ไปร่วมชันสูตรพลิกศพ
ที่เกิดเหตุพบว่า บ้านหลังดังกล่าวสร้างเสร็จไม่นาน เปิดเป็นสำนักงานบริษัทนายหน้าส่งคนงานไปต่างประเทศ พบร่างชายคนหนึ่ง นอนตะแคง ไปอยู่ที่รั้วติดกับประตูบ้าน สภาพศพมีรอยฟัน ด้วยของมีคมบริเวณลำคอ ด้านหลัง และบริเวณศีรษะ โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งแจ้งว่าพบแผลลึกจำนวน 7 แผล ทุกแผลสามารถเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตทั้งนั้น แผลที่ศีรษะลึกถึงกะโหลก แผลที่ต้นคอตัดกระดูกคอ เลือดไหลนอง
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจร่องรอยในที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวไกล กว่า 10 เมตรในที่เกิดเหตุพบมีดขอด้ามยาว ประมาณ 1 เมตร 1 เล่มมีรอยเลือดที่ใบมีดตกอยู่ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
นายมนตรี ผู้ก่อเหตุ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่า นายนิพนธ์ ผู้ตาย ซึ่งหลังจากลงมือก่อเหตุแล้ว จึงได้ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ก่อนนำตัวดำเนินคดีต่อที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู
ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลหนองบัวลำภูและร้อยเวรสอบสวน กำลังทำการชันสูตรพลิกศพ พบหญิงคนหนึ่งทราบภายหลังว่าเป็นสาวประเภทสอง ชื่อ พลอยประภัสสร อายุ 46 ปี มีความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยากับผู้ตาย กำลังร้องไห้โฮขณะยืนดูเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ พร้อมร้องตะโกนว่า "ขอให้มันถูกประหารชีวิต ขอให้มันถูกประหารชีวิต" ซ้ำๆกันหลายครั้ง จนกระทั่งมีหญิงคนหนึ่งมาประคองตัวไป
นายชาญชัย น้องชายของพลอย ประภัสสร เล่าให้ฟังว่า ตอนเกิดเหตุตนและพี่สาวไม่อยู่บ้าน ผู้ตายเป็นพี่เขย เป็นชายรักชาย มาอยู่กินกับพี่สาวของตน แต่ไม่มีอาชีพอะไร อยู่บ้านกินเหล้ากินเบียร์ไปวันๆ สร้างความไม่พอใจให้กับพ่อและแม่ของตน พยายามห้ามปรามให้เลิกรากันไม่ฟัง จนทำให้พี่สาวของตนไม่พอใจพ่อแม่ที่กีดกันความรัก และทำให้นายนิพนธ์ผู้เป็นพี่เขยก็เกลียดพ่อแม่ตนไปด้วย
นายมนตรี ผู้ก่อเหตุ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่า นายนิพนธ์ ผู้ตาย โดยได้ใช้อาวุธมีดตะขอฟันเข้าไปที่บริเวณตัวและลำคอหลายครั้งจนผู้ตายแน่นิ่งไป ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ผู้ตายไม่ให้เกียรติ ไม่มีสัมมาคารวะต่อตนที่เป็นพ่อตา โดยผู้ตายมาติดพันอยู่กับลูกสาวที่เป็นสาวประเภทสองที่ได้มีการแปลงเพศแล้ว ซึ่งหลังจากลงมือก่อเหตุแล้ว จึงได้ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพในการกระทำ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมา สอบสวนและดำเนินคดีต่อที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมด้วยอาวุธมีดตะขอถางป่าด้ามยาว 98 เซนติเมตร
นายมนตรี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตั้งแต่นายนิพนธ์ ผู้ตายมาอยู่กินกับลูกสาวที่เป็นสาวประเภทสองที่ได้แปลงเพศแล้ว เป็นเวลาประมาณ 2 เดือนแล้ว ไม่เคยให้ความเคารพตนเองเลย ไม่เคยยกมือไหว้แม้แต่ครั้งเดียว ถ้ายอมยกมือไหว้พูดด้วยเหตุการณ์นี้คงจะไม่เกิดขึ้น
ที่ผ่านมาหลังจากนายนิพนธ์เข้ามาอยู่กับลูกสาวในบ้าน ตนและภรรยาได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านเอื้ออาทร และในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่บ้านของลูกสาว และจากนั้นตนเองได้ไปถางป่าอยู่ข้างบ้าน หลังจากถางป่าเหนื่อยจึงได้เดินเข้ามาในบ้านผ่านนายนิพนธ์
ซึ่งขณะนั้น นายนิพนธ์กำลังโทรศัพท์อยู่ชำเรืองมองตนเองด้วยหางตาแบบไม่พอใจ ตนจึงถามว่า รู้จักไหมว่า นี่เป็นใคร เขาตอบกลับมาว่า ไอ้เหี้xกูไม่รู้จัก จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ตนเห็นว่าเขาตัวใหญ่หากไม่มีมีดก็คงจะต้องถูกเตะลงไปนอนกองแน่ จึงได้ใช้มีดที่กลับมาจากถางป่าฟันเข้าไปหลายครั้ง และจนทำให้เสียชีวิตในครั้งนี้
ยอมรับตนเองเป็นอารมณ์ร้อน แต่ถามว่าหลังลงมือก่อเหตุแล้วรู้สึกเสียใจไหม ไม่เสียใจ เพราะตลอดเวลาเขาไม่ให้เกียรติ และอีกอย่างหนึ่งทางครอบครัวได้รับเด็กหญิงมาเลี้ยงเป็นหลาน อายุ 13 ปี ไม่ให้ตนเองมาหาหลาน ให้เรียกเขาเป็นพ่อ ให้ไปนอนในห้องเดียวกัน เด็กผู้หญิงที่อายุขนาดนี้แล้ว เคยห้ามปรามกลัวจะเป็นเหมือนในข่าว ตนเองยิ่งรู้สึกไม่พอใจ และสาเหตุหนึ่งก็คงจะเป็นเพราะตัวลูกสาวตนเองด้วยที่ไม่บอกหรืออาจจะเข้าข้างชายดังกล่าว ซ้ำยังพูดว่า หากสองเฒ่านี้ตายคือจะดีน้อ