รวบชาวจีนผู้ต้องหาหมายแดง รับทำบัตรคนไทยคิด 1 ล้าน
รวบชาวจีนผู้ต้องหาหมายแดง รับทำบัตรคนไทยคิด 1 ล้าน

กองปราบเปิดปฏิบัติการ" CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำล่าผู้ต้องหาหมายแดง พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน" จับกุมผู้ต้องหา 6 ราย พบมีเจ้าหน้าที่เอี่ยวรีดทรัพย์ อยู่ระหว่างขยายผลขบวนการ
วันที่ 6 มี.ค.68 เวลา 13.30 น. ที่ ห้องแถลงข่าวชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. ร่วมแถลงข่าว วันที่5 มี.ค.68 ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ" CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ ล่าผู้ต้องหาหมายแดง พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน" ลงพื้นที่ตรวจค้น 11 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเป็นการตรวจค้นจับกุมเป้าหมาย 26 เป้าหมาย ซึ่งในส่วนของเป้าหมายที่เป็นตัวบุคคลแบ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 ราย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องเชิญมาสอบปากคำอีก 18 ราย
ผลการปฎิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย คือนายลีและนางเอ้ สัญชาติจีนและเมียนมา จับกุมได้ที่บ้านพักในจังหวัดชลบุรีพร้อมตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ในส่วนของผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 4 รายเป็นเจ้าพนักงานปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในคดีอื่น แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ 3-6 มีการแจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
สืบเนื่องจากปลายปี 66 มีผู้เสียหายชาวจีนมาพบกองปราบกองกำกับ 3 ว่าถูกตำรวจ รีดทรัพย์จำนวน 5 ล้าน แลกกับการไม่ถูกจับกุม จากการขยายผล พบว่าในช่วง พ.ย.ปี 65 ผู้เสียหายได้เข้าไปกลุ่มเฟซบุ๊กคนจีน รับทำบัตรประชาชน คิดราคา 1 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ นัดผู้ต้องหา 2 รายที่เป็นสามีภรรยากัน ที่เทศบาลในพื้นที่ภาคอีสาน เมื่อได้บัตรมา มีการสแกนนิ้วมือเหมือนทำบัตรจริง แต่ไม่มีให้กรอกเอกสาร ได้เงินให้ผู้ต้องหา 1 ล้านบาท จากนั้นมีการนำบัตรไปทำพาสปอร์ต ที่กรมการกงสุล โดยมีผู้ต้องหาไปกับผู้เสียหายด้วย ต่อมาระหว่างรอ มีตำรวจ ตม.3 นายแสดงตัว ขอตรวจค้นว่าพบถือบัตรประชาชนปลอม มีการพาผู้เสียหายไปที่ทำการ ตม. แล้วรีดทรัพย์ 5 ล้านบาท เพื่อจะไม่ถูกจับ ผู้เสียหายต่อรองเหลือ 2 ล้าน โดยมีการจ่ายเข้าไปที่กระเป๋าดิจิทัลให้กับตำรวจ ตม. ก่อนที่ผู้เสียหายจะตัดสินใจเข้าร้องทุกข์
จากการสืบสวน กลุ่มผู้ก่อเหตุมีหลายกลุ่มทั้ง กลุ่มชักชวนที่เป็น 2 สามีภรรยา นายลี กับนางเอ้ กลุ่มจัดหาบัตรที่สวมให้คนจีนซึ่งเป็นคนไทยเจ้าของบัตรมีตัวตนจริง พบว่าเมื่อขายบัตรแล้วได้ทำบัตรใหม่ ขณะที่คาดว่าเจ้าหน้าที่รัฐน่าจะมีส่วนสนับสนุนการกระทำ และมีตำรวจรีดทรัพย์ พบว่าสุดท้ายเงินที่ผู้เสียหายจ่ายไปให้ตำรวจ ไหลไปที่บริษัทนอมินี สัญชาติจีน คือเปลี่ยนจากเงินดิจิทัลเป็นเงินบาท และพบว่ามีการกระทำเข้าข่ายฟอกเงิน ซึ่งจะขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ นายลี เป็นผู้ต้องหามีหมายแดงติดตัว จากคดีฉ้อโกงที่ประเทศจีน มูลค่า 3 พันล้านหยวน หรือ14,000 ล้านบาท เมื่อปี 62 และหนีเข้าไทยปี 64 ถือวีซ่า นทท.มา 60 วัน และสวมบัตรคนไทย หรือ บัตรหัวศูนย์ บัตรบุคคลตามแนวตะเข็บชายแดนไม่มีสถานะทางทะเบียน ซื้อมาในราคา 6 หมื่นบาท เมียเป็นคนพม่า เมื่อมีบัตร มีสิทธิ์ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนไทย กรณีที่มีหมายแดง จะดำเนินคดีในไทยก่อน และทำเรื่องส่งไปดำเนินคดีที่จีนต่อ โดยมีการประสานงานกับจีนแล้ว
เชื่อว่าทำเป็นขบวนการ ตำรวจจะสืบสวนขยายผลในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป การกระทำดังกล่าวเป็นความผิด ขยายไปถึงใคร ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน