ทิ้ง “โรฮิงญา” ให้ตายกลางทาง สุดท้ายดับ 2 โคม่า 10

ทิ้ง “โรฮิงญา” ให้ตายกลางทาง สุดท้ายดับ 2 โคม่า 10

141217 ต.ค. 67 17:58   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

แก๊งค้ามนุษย์สุดโหด ลักลอบพาโรฮิงญาเข้าประเทศ นั่งอัดในกระบะตู้ทึบมาเกือบ 100 คน คนทนไม่ไหวเพราะขาดอากาศหายใจถูกโยนทิ้งในป่าข้างทาง สุดท้ายดับ 2 โคม่าอีก 10

(17 ต.ค. 67) พ.ต.ท.ภักดี ตันอนุกูล สว.(สอบสวน) สภ.หลังสวนได้รับแจ้งจากพระสงฆ์วัดเสกธาราม หมู่ 4 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่าพบชาวต่างด้าวถูกนำมาทิ้งนอนเสียชีวิตและหายใจโรยรินอยู่จำนวนนับ 10 ราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิรันทร์ กันจู รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร หน่วยกู้ภัย กู้ชีพ สมาคมพุทธประทีปหลังสวน 


ที่เกิดเหตุห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นป่าละเมาะริมถนนแหลมทรายติดกับเชิงเขาเสก หมู่ 4 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน และห่างจากปากทางขึ้นวัดเสกขาราม ประมาณ 20 เมตร พบมีต่างด้าวชาวโรฮิงญา จำนวน 12 คน นอนกองรวมอยู่ สภาพเนื้อตัวมอมแมม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ เป็นเพศชายอายุประมาณ 25-30 ปี ส่วนอีก 10 ราย แยกเป็นเพศหญิง 2 คน ชาย 8 คน อายุประมาณ 15-50 ปี มีสภาพเหนื่อยอ่อนเพลียนอนหายในรวยริน บางคนมีอาการน้ำลายฟูมปาก ดิ้นชักทุรนทุราย เหมือนจะขาดใจตาย หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย ได้ช่วยกันลำเลียงแยกส่งไปที่โรงพยาบาลหลังสวน โรงพยาบาลปากน้ำหลังสวน และโรงพยาบาลทุ่งตะโกที่อยู่ใกล้เคียง โดยทั้งหมดมีอาการโคม่า 



พระอธิการธาดา กิตติธโร เจ้าอาวาสวัดเขาเสกขาราม กล่าวว่าขณะที่ พระปลัดศีลวุฒิ ปสันโน รักษาการวัดนาบุญ และคนขับรถยนต์กระบะขึ้นเนินเขาเพื่อไปรับอาตมา ได้มีเด็กชายต่างด้าวอายุประมาณ 15 ปี วิ่งออกมาจากในป่าละเมาะข้างทาง ด้วยอาการอ่อนเพลียพร้อมกับโบกมือตะโกนส่งเสียงเอะอะโวยวายเป็นภาษาต่างด้าว ตอนแรกก็คิดว่าพวกแรงงานต่างด้าวที่มารับจ้างกรีดยางพาราทะเลาะกัน มาจึงไม่ได้สนใจอะไรมาก จากนั้นก็นั่งรถขึ้นไปรับเจ้าอาวาสบนวัดเสกขาราม เพื่อไปปาฏิโมกข์ปฏิบัติธรรมนอกพื้นที่


หลังขึ้นไปรับอาตมาแล้วได้นั่งรถกระบะลงมาจากวัด เห็นเด็กชาวต่างด้าวยังอยู่ จึงจอดรถลงไปดูในป่าละเมาะปรากฎว่าพบมีชาวต่างด้าวจำนวนกว่า 10 คน นอนชักดิ้นชักงอ บางคนหายใจรวยรินใกล้จะตาย จากนั้นได้โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบและช่วยเหลือดังกล่าว


ด้านนายฮูเซ็น ล่ามชาวต่างด้าวที่มาจุดเกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า จากการสอบถามชาวต่างด้าวที่รอดชีวิตบอกว่า ได้เดินทางมาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยมีนายหน้าพาเดินเท้าและขึ้นรถยนต์ถึง 3 ช่วง เพื่อมาอยู่ที่จุดพักซึ่งเป็นโกดัง อยู่บริเวณ ชายแดนตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งมีอยู่จำนวนมากนับร้อยคน จากนั้นก็จะทยอยลำเลียงต่างด้าวชาวโรฮิงญา ที่ได้จ่ายเงินค่าหัวแล้ว พาข้ามแดนมารอที่จุดพักฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก โดยจะมีรถยนต์กระบะมารับเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมาย



นายฮูเซ็นกล่าวต่อว่า จากการสอบถามชาวโรฮิงญาบอกด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมที่มาด้วยกันประมาณกว่า 70 คน ถูกแก๊งค้าแรงงานข้ามชาติพามากับรถยนต์กระบะตู้ทึบสูง โดยออกมาจากจุดพักที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ตั้งเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อจะเดินทางไปส่งยังชายแดนภาคใต้ และจะเดินทางต่อไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย ระหว่างทางซึ่งทุกคนมีอาการอ่อนเพลียจากการเดินทาง อาหาร น้ำ ก็ไม่ค่อยได้รับประทาน เพราะต้องคอยหลบๆซ่อนๆ


และขณะเดินทางมาถึงเขตพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ปรากกฎว่าชาวโรฮิงญาที่อัดแน่นกันมาในกระบะตู้ทึบมากถึง 70 คน เกิดขาดอากาศหายใจ มีอาการอ่อนเพลีย บางคนชักดิ้นชักงอ บางคนหมดสติ บางคนส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้คนขับตกใจจึงเลี้ยวรถเข้าไปยังถนนซอย แล้วให้ชาวต่างด้าวที่ยังแข็งแรงช่วยกันลากคนที่หมดสติ คนที่อ่อนแรง และคนที่มีลักษณะอิดโรย ลงไปโยนทิ้งกองรวมกันในป่าละเมาะใกล้ทางขึ้นวัดดังกล่าว จากนั้นพากันเดินทางต่อไป


พ.ต.อ.นิรันทร์ กันจู รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 และตำรวจท้องที่ ออกตรวจสอบเก็บภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพื่อติดตามจับกุมแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ข้ามชาติมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง