“กัณวีร์” เปิดบันทึกประชุม กต.ระบุชื่อ 3 ประเทศพร้อมรับ “อุยกูร์”
“กัณวีร์” เปิดบันทึกประชุม กต.ระบุชื่อ 3 ประเทศพร้อมรับ “อุยกูร์”

“กัณวีร์” โพสต์หลังฐานใหม่ ชวเลขบันทึกการประชุม กมธ.เมื่อกรกฎาคม 67 พบตัวแทน กต. บอกเองมี 3 ประเทศ สหรัฐฯ, สวีเดน, ออสเตรเลีย แสดงความพร้อมรับชาวอุยกูร์
(5 มี.ค. 68) ความคืบหน้ากรณีการผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ซึ่งต้องกักขังอยู่ที่ สตม.สวนพลู นานกว่า 10 ปี กลับประเทศจีน โดยทางรัฐบาลไทยระบุว่าเป็นการกลับโดยสมัครใจ และทางการจีนรับปากรับรองเรื่องความปลอดภัยให้ชาวอุยกูร์ทั้ง 40 กว่าคนดังกล่าว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ในประเด็นสิทธิมนุษยชนและประเด็นมนุษยธรรม
ล่าสุด นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ได้ออกมาเปิดเผยหลักฐานชิ้นใหม่ เป็นชวเลขบันทึกการประชุม คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2567 โดยมีผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมให้ข้อมูลด้วย
นายกัณวีร์ โพสต์ภาพหน้าบันทึกการประชุมดังกล่าว พร้อมข้อความระบุว่า “มาตามหา!! คนที่ถามหาหลักฐานครับ ว่าทางผู้แทนกระทรวงต่างประเทศแจ้งกับผมว่ามีประเทศที่ 3 มาขอรับชาวอุยกูร์ เอามาให้แล้วนะครับ “ชวเลข ของการประชุม กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน วันที่ 10 กรกฎาคม 2567” ทางผู้แทน กต. ได้ให้ข้อมูลในที่ประชุมว่า “บางประเทศก็แสดงความพร้อมรับชาวอุยกูร์ ไปตั้งถิ่นฐาน อย่างเช่น สหรัฐ สวีเดน ออสเตรเลีย” (ครบ 3 ประเทศที่ทวงยังครับ?)
ผมให้หลักฐานที่ทางกลไลสภาฯ สามารถให้ได้แล้วนะครับ ทีนี้ต้องนำเรียนถาม ท่านที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลทั้งหมดว่าสรุปว่าความจริงเป็นยังไง และที่สำคัญ สมัครใจกลับหรือไม่? ทำไมอ่านไปมา เหมือนว่าจะบอกเลยว่าจีนกดดันตลอดเวลาจนส่งไม่ได้น๊ออ”
โดยในบันทึกการประชุมหน้าที่นายกัณวีร์ได้เผยแพร่นั้น มีข้อความระบุว่า “ระหว่างท่านทูตจีนกับท่านปลัด หรือรองปลัดของกระทรวงก็มีการหยิบยกเป็นประเด็น ที่มีการหยิบยกตลอดเวลาเรื่องนี้อย่างท่านก็เข้าใจว่ามันเป็นการกดดันอยู่ตลอดเวลากับ ทางการไทยเรื่องนี้ แล้วก็โดยการที่การคุยกัน คือจีนก็ขอให้ไทยส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปจีนโดยตรง หรือผ่านประเทศเพื่อนบ้าน และขอไม่ให้ส่งไปประเทศที่สาม อันนี้ก็คือเป็นท่าทีจีนยืนยันมาตลอดทุกหนที่เจอกับเรา
สำหรับข้อมูลไปทางการว่า OK ข้อมูลคำร้องขออย่างเป็นทางการ หรือไม่เป็นทางการจากรัฐบาลอื่นเพื่อขอตัวผู้ต้องกักชาวอุยกูร์กลับไปตั้งถิ่นฐานใหม่ ประเทศที่สาม ก็ในประเทศตะวันตก แล้วก็องค์การระหว่างประเทศ อย่างเช่น UNHCR หรือ OHCHR ก็ขอให้ไทยไม่ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปจีน และบางประเทศก็แสดงความพร้อมรับ ชาอุยกูร์ไปตั้งถิ่นฐาน อย่างเช่น สหรัฐ สวีเดน ออสเตรเลียก็พอมีหยิบยกบ้างในความพร้อม ที่จะรับไป
สำหรับการประเมินสถานการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศต่อท่าทีรัฐบาลจีนและผลกระทบต่อประเทศไทย หากรัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์ไปประเทศที่สาม หรือการอนุญาตให้ชาวอุยกูร์ไปอาศัย หรือการอนุญาตให้ชาวอุยกูร์อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้เป็นการชั่วคราว
ประเด็นนี้จะขอเรียนท่านประธาน ท่านกรรมาธิการว่าประเด็นซินเจียง อุยกูร์เป็นหนึ่งในผลประโยชน์หลักของจีนอันนี้ก็เช่นเดียวกับในเรื่องไต้หวัน ในเรื่องทะเลจีนใต้ เรื่องทิเบต เพราะฉะนั้นก็คือมีนัยความสำคัญสูงสุด แล้วก็จีนก็จะไม่ประนีประนอม
ประเด็นเรื่องนี้ก็เมื่อสักครู่ที่ได้ยินมาว่าถ้าเกิดเราต้องไปกลัวจีนทำไม อะไรอย่างไรมันก็ อาจจะเป็นประเด็นที่ Sensitive คือเราคงไม่ได้กลัวแต่ว่ามันก็ต้องพิจารณาให้มัน ละเอียดอ่อนผลประโยชน์ของเราทุกด้าน แล้วก็หากส่งอุยกูร์ไปประเทศที่สามจีนก็น่าจะไม่มีความพอใจแน่นอนและคงมีการตอบโต้
ซึ่งอันนี้เราก็ยังคาดไม่ได้ว่าถ้าเกิดเขาตอบโต้ขึ้นมา อย่างเช่นของมันคืออะไร Scope แค่ไหน แล้วก็ยังไม่ทราบทั้งสิ้น นอกจากนั้นในการที่จะมี การฉลอง ๕๐ ปีความสัมพันธ์ไทย-จีนปีหน้าตอนนี้ก็คงจะต้องระมัดระวังนิดหนึ่ง
ในการดำเนินการว่าทำอะไรให้มันไม่กระทบความสัมพันธ์ที่ดีทั้ง ๒ ฝ่าย แต่ถ้าเกิดว่าเราบอกว่าตอนนี้เรายังไม่ทำอะไรให้อุยกูร์อยู่ในประเทศไทยดูแลต่อไป จีนก็จะคงท่าทีเหมือนเดิมอยู่ ตอนนี้ ก็คือจะมีการกดดันเรื่อย ๆ แต่ว่าก็ยังไม่ดำเนินการอะไรที่มัน Rustic กับไทยนะครับ”