ออกหมายเรียกครูหนุ่มเปิดกระโปรงเด็ก ป.4 แล้ว

(9 ธ.ค.67) จากกรณี เพจ "อีซ้อขยี้ข่าว" ได้โพสต์ข้อความว่า เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้และยังไม่มีข่าวเพราะถูกสั่งให้ปิดเงียบระบุว่า”เด็กหญิงชั้น ป.4 ใน จ.บุรีรัมย์จำนวนหลายคนถูกครูชายในโรงเรียนพยายามลวนลามหลายครั้ง จนทางผู้ปกครองทราบเรื่องและรวมตัวไปแจ้งความที่ สภ.แห่งหนึ่ง แต่ถูกพนักงานสอบสวน เรียกทั้งสองฝ่ายให้มาไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยการให้ครูชายจ่ายเงินได้จบเรื่องและทาง ผอ.รร.ก็ช่วยวิ่งเต้นคดีให้กับครูชายคนนี้เพื่อไม่ให้มีข่าวเสื่อมเสียของโรงเรียนออก”

โพสต์ดังกล่าวมีคนเข้าไปวิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการทำงานของพนักงานสอบสวนที่ใช้วิธีการเจรจา ทั้งที่เป็นคดีกับเด็กต่ำกว่า 13 ปี หากเจรจากันได้ครูอาจจะกลับมาทำซ้ำอีกหรือไม่

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบและพบกับผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป. 4 คนหนึ่ง เล่าว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. พวกตนรวมตัวกัน 3 คน ประกอบด้วย น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี เป็นแม่ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป.4 , นางนก (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี แม่ของ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี เด็กนักเรียนชั้นป. 4 และน.ส.อ้อย (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี แม่ของ ด.ญ.ซี (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป.4 

ไปพบ ร.ต.อ.อุดมศักดิ์ ขอพิมาย รองสารวัตร (สอบสวน ) สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้เอาผิดนายจิรัฐพล หรือครูว่านอายุ 34 คุณครู ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพราะพยายามลวนลามเด็กนักเรียนทั้ง 3 คน

ระบุว่า เมื่อวันศุกร์ เวลาเช้าก่อนเที่ยง ช่วงเวลาภาคเรียนที่ 1 ที่ห้องเรียนชั้น ป.4/2 ได้ใช้มือถอดกางเกงวอร์มขายาวของ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) ,วันอังคาร เวลาเช้าก่อนเที่ยง ช่วงเวลาภาคเรียนที่ 1 ที่ห้องเรียนชั้น ป.4/2 นายจิรัฐพลฯ ได้ใช้มือเปิดกระโปรงนักเรียน ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) และเวลาเช้าก่อนเที่ยง ช่วงเวลาภาคเรียนที่ 1 นายจิรัฐพลฯ ได้ใช้ให้เด็กนักเรียนผู้ชาย ไปเอาหญ้ามาใส่ปากของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) และเมื่อวันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลาเช้าก่อนเที่ยง นายจิรัฐพล ได้เรียก ด.ญ.เอ (นามสมมุติ)ไปที่บริเวณโต๊ะ หน้าห้องเรียนชั้น ป.4/2 แล้วได้จับหัวมาใกล้กับอวัยวะเพศบริเวณเป้ากางเกงของนายจิรัฐพล

ยังไม่พอวันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลาเช้าก่อนเที่ยง นายจิรัฐพล ได้ใช้มือเปิดกระโปรงนักเรียน ด.ญ.ซี (นามสมมุติ)แล้วปล่อย และเมื่อวันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลาบ่าย นายจิรัฐพล ได้ดึงมือ ด.ญ.ซี ที่กำลังนั่งเล่นอยู่หน้าห้องธุรการเข้าไปในห้อง แต่ ด.ญ.ซี ได้ใช้เท้าถีบประตูแล้วรีบลุกขึ้น วิ่งหนีออกจากบริเวณนั้น แต่การแจ้งเอาผิดกลับไม่เป็นผลกลายเป็นการเจรจาหาข้อยุติมากกว่า เพราะครูว่าน เป็นลูกน้อง ผอ.โรงเรียน

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว พบนายสำราญ เสียงตรง ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยนายสำราญ กล่าวว่า จริงแล้วทราบเรื่องเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังทราบเรื่องได้เข้าไปสอบถามนักเรียน กระทั่งนักเรียนไปบอกผู้ปกครอง จากนั้นผู้ปกครองได้มาพูดคุยกันที่โรงเรียนในระดับหนึ่ง 

โรงเรียนได้แจ้งไปยังเขตพื้นที่การศึกษา แล้วแจ้งกับผู้ปกครองเด็กว่าโรงเรียนได้ดำเนินการไปในระดับหนึ่งแล้ว ด้วยการเอาครูว่าน ออกจากพื้นที่โรงเรียนไปแล้ว สรุปคือเรื่องระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองน่าจะจบแล้ว แต่ระหว่างโรงเรียนกับครูว่านน่าจะยังไม่จบยังจะต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

นายสำราญ กล่าวด้วยว่าจริงแล้วครูว่านเป็นคนเรียบร้อยอยู่เงียบๆ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เป็นครูใจดี เด็กจะรักและมักจะมาหยอกล้อกัน กรณีที่ครูเปิดกระโปรงนักเรียนหรือกางเกงวอร์มนั้น

น่าจะเป็นการหยอกล้อกันเช่นถ้าเด็กทำการบ้านผิดมาก็จะให้เปิดกระโปรงนักเรียนให้ครูดู

ต่อมาผู้ปกครองเด็กได้ไปแจ้งความ ตำรวจได้เชิญตนไปให้ข้อมูล และแจ้งกับตำรวจไปว่าครูว่านเป็นครูที่ดีคนหนึ่ง กรณีที่ครูว่านเปิดกระโปรงจะไม่ได้ทำในที่ลับ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องเรียนซึ่งเป็นที่เปิดเผยไม่มีการไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด ยืนยันว่าเด็กกับครูว่านน่าจะหยอกล้อกันสนุกเหมือนพี่น้องกัน แต่ก็ไม่สมควร

ล่าสุดนางประภัสสร สรวนรัมย์ รอง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ได้ออกมาระบุถึงกรณีนี้ว่า หลังรับรายงานจากโรงเรียน ทางเขตได้เรียกตัวครูคนดังกล่าวมาประจำอยู่ที่สำนักงานเขตฯทันทีตั้งแต่วันศุกร์ แต่ติดเสาร์-อาทิตย์ และเริ่มมาทำงานแล้วที่สำนักงานเขตฯวันนี้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงแล้วโดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้เขตฯจะมองถึงความรู้สึกของเด็กและผู้ปกครองเด็กเป็นหลักก่อน หากผลการสอบออกมาเป็นอย่างไรเขตฯก็พร้อมจะทำตามระเบียบของทางราชการต่อไป

สำหรับทางด้านคดีล่าสุดตำรวจได้ออกหมายเรียกครูว่าน ให้มาพบพนักงานสอบสวนแล้วในข้อหา”กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี”ส่วนการสอบสวนจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานเพราะจะต้องมีสหวิชาชีพมาสอบเด็กทั้ง 3 คนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แหล่งข่าว (ผู้ปกครองเด็กบางคน)ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า การเจรจาได้มีการตกลงเยียวยาเป็นเงินสดให้กับเด็กทั้ง 3 ไปเรียบร้อยแล้วว่าจะไม่ติดใจเอาความ แต่เรื่องมาแดงก่อน