ผบ.ตร.ลั่นเร่งตรวจสอบหลังพบ “น็อตยึดใบพัดหางหลุด” ต้นเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ผบ.ตร.ลั่นเร่งตรวจสอบหลังพบ “น็อตยึดใบพัดหางหลุด” ต้นเหตุ ฮ.ตำรวจตก

71430 พ.ค. 68 16:50   |     AdminNews

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลั่นเดินหน้าสร้างความโปร่งใส หลังเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกคร่าชีวิต 3 นาย ด้านจเรตำรวจแห่งชาติพบ “น็อตยึดใบพัดหางหลุด” ต้นเหตุเครื่องเสียการทรงตัว เร่งสอบลึกถึงงบซ่อมบำรุง–อะไหล่–กระบวนการจัดซื้อ

วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกองบินตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเฮลิคอปเตอร์แบบเบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมจับตามอง ผู้บังคับบัญชาจะต้องสร้างความโปร่งใส พร้อมคืนความเชื่อมั่นให้กับนักบินและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตลอดสัปดาห์นี้จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกมิติ ทั้งกระบวนการบริหารจัดการอากาศยาน การซ่อมบำรุง รวมถึงการใช้งบประมาณ เพื่อให้ได้ความกระจ่างอย่างแท้จริง พร้อมย้ำว่า “ความปลอดภัยของนักบินและประสิทธิภาพของเครื่องบิน คือสิ่งสำคัญที่สุดที่ตำรวจต้องดูแล” และคาดว่าจะสามารถนำอากาศยานที่เหลือกลับมาใช้ในภารกิจจำเป็นได้อีกครั้งภายในวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคมนี้


สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับงบซ่อมบำรุงอากาศยานที่สูงถึงปีละ 950 ล้านบาทนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า ปีนี้ยังไม่มีการใช้งบดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างวางแนวทางการบริหารใหม่ให้โปร่งใส ถูกต้อง และคุ้มค่ามากที่สุด พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมด


ด้าน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงผลการตรวจสอบเบื้องต้นว่า จากการตรวจสอบซากเฮลิคอปเตอร์ที่กองบินตำรวจพบว่าสาเหตุหลักของอุบัติเหตุครั้งนี้มาจาก น็อต 2 ตัวที่ยึดใบพัดหางหลุด ทำให้ใบพัดเสียการทรงตัวและไปตัดกับส่วนหางของเครื่อง ส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์ขาดความสมดุลและตกลงในที่สุด


น็อตดังกล่าวยังอยู่ในอายุการใช้งานอีกกว่า 600 ชั่วโมง จึงต้องตรวจสอบว่าเกิดจากความบกพร่องในขั้นตอนซ่อมบำรุงหรือกระบวนการผลิต โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีบริษัทการบินไทยเป็นคู่สัญญาซ่อมบำรุงหลัก ส่วนการซ่อมย่อยที่ไม่ซับซ้อนมักดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง


ขณะที่ พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผู้บังคับการกองบินตำรวจ กล่าวว่า ภายใน 30 วันที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุถึง 2 ครั้ง จึงต้องถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ต้องเร่งคลี่คลายข้อเท็จจริงให้กระจ่าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานจากทุกฝ่าย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ไม่ว่าจะมาจากวัสดุหรือกระบวนการซ่อมบำรุง


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากบริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ก็จะเข้ามาร่วมตรวจสอบในเชิงลึก เพื่อยืนยันสาเหตุ และวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำในอนาคต


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat