หน่วยงานลุยตรวจสอบ สั่งสำนักสงฆ์ ยุติการสอนตาทิพย์-หูทิพย์เด็ดขาด!

จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” ได้โพสต์ภาพและข้อความ โดยระบุข้อความว่า “เปิดที่พักสงฆ์ป่า ในตำบลสลกบาตร สอนหูทิพย์ – ตาทิพย์ ปิดตาทายภาพและตัวเลข เรียกผู้สำเร็จขั้นวิชาว่า “เจ้าแม่ตาทิพย์” ชาวบ้านร้องมีพฤติกรรมแปลกๆ นำศพมาประกอบกิจกรรม วอนเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ

จึงขออนุญาตนำเสนอถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกิจกรรมดังกล่าว ว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะชาวบ้านเกิดข้อสงสัย และเกรงว่าศพที่นำมาประกอบกิจกรรมจะทำให้เกิดโรคระบาดได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร้องลัทธิประหลาด พระเปิดสำนักฝึกหูทิพย์-ตาทิพย์

(18 พ.ย.67) คืบหน้า “นายวรรธน์ ฉายอภิรักษ์” นายอำเภอขาณุวรลักษบุรี , นายพรเทพ พุ่มพวงนายก อบต.สลกบาตร , สำนักพุทธประจำจังหวัดกำแพงเพชร , เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง , เจ้าคณะตำบล และแอดมินเพจ กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ ม.2 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พบว่าภายในสำนักมีพื้นที่จำนวน 95 ไร่ มีพระสงฆ์ 4 รูป แม่ชี จำนวน 4 คน ไม่พบเด็กๆที่ปรากฏในคลิปแต่อย่างใด 

เบื้องต้นทาง นายอำเภอ ให้ข้อมูลว่าจะทำการตรวจสอบทั้งสองประเด็นคือ ประเด็นเรื่องของการฝึกตาทิพย์ และเรื่องของการฝึกกรรมฐานเกี่ยวกับศพ ว่ามีความผิดหรือไม่ทั้งกฎหมายและวินัยสงฆ์ ซึ่งในกรณีที่มีการตายเกิดขึ้น ทางญาติจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ทราบ เพื่อออกใบมรณะบัตร ต้องแจ้งให้ทราบว่าจะจัดการศพอย่างไรถูกต้องหรือไม่ จะเผาหรือจะเก็บศพไว้ก่อน หากจะเผาหรือจะเก็บศพจะต้องแจ้งสำนักทะเบียนพื้นที่ เก็บศพไว้จำนวนกี่วัน ทางสาธารณสุขจะต้องมาดูว่าความถูกต้องการเก็บศพเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนหรือไม่อย่างไร 

ขณะที่สำนักพุทธได้เข้าพูดคุยขอดูหลักฐานทั้งหมด ทั้งการขออนุญาตตั้งสำนักสงฆ์ และการนำศพหรือเด็กมาทำกิจกรรมว่าเป็นไปตามระเบียบถูกต้องหรือไม่ 

ทางด้าน พระปราโมธ หัวหน้าสำนักสงฆ์ กล่าวว่า คลิปที่ปรากฏเป็นคลิปเก่า ตนไม่เคยสอนเรื่องตาทิพย์ หูทิพย์ น่าจะเป็นพระรุ่นเก่า ซึ่งไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากเพิ่งมาจำวัดอยู่ที่นี่เพียง 2-3 ปีเท่านั้น ส่วนพระที่ปรากฏอยู่ในคลิป ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่วัดแล้ว ออกพรรษาสึกไปแล้ว 

ส่วนกรณีศพผู้เสียชีวิตมีญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมถวายร่างให้ แล้วมีการทำหนังสือซึ่งได้รับอนุญาตจากญาติมาถวายร่างให้มาเป็นอาจารย์ใหญ่ 2 ปี โดยจะมี 4 ปีหรือ 5 ปี ซึ่งเมื่อถึงกำหนด ญาติจะมารับศพกลับไป ที่เหลืออยู่ตอนนี้จะมีแต่โครงกระดูกเฉยๆ ตอนนี้ทางรองเจ้าคณะอำเภอ อนุญาตให้มีแค่โครงกระดูกได้ 

และด้านทางนายอำเภอได้อนุญาตให้มีเพียงโลงทองตั้งอยู่ได้ จะได้ทำให้เกิดความกลัว เป็นการฝึกจิต และทางรองเจ้าคณะอำเภอได้ร้องขอให้ฝึกเฉพาะผู้ใหญ่กับแม่ชีและพระ ซึ่งทางเราจะงดของเด็กไป งดสอนตาทิพย์ ซึ่งเรื่องนี้มีอยู่ทุกที่ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นฌานขั้นแรก เมื่อทางผู้ใหญ่ขอร้องเราให้หยุดเราก็ต้องหยุด

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ทางวัดเปลี่ยนวิธีการสอน โดยให้สอนกับพระและแม่ชี ประชาชนที่เป็นผู้ใหญ่เท่านั้น ไม่ให้สอนกับเด็กและเยาวชน และให้ยุติการสอนตาทิพย์หูทิพย์เด็ดขาด และต้องขออนุญาตสร้างสำนักสงฆ์ให้ถูกต้องตามระเบียบสำนักพุทธ ส่วนเรื่องการที่นำศพมาไว้ที่สำนักสงฆ์ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ดำเนินการตาม พรบ.การทะเบียนราษฎร และพรบ.สุสานและฌาปนสถาน ให้ถูกต้อง

ขณะเดียวกันนางรำพัน ลูกศิษย์ที่มาปฏิบัติธรรมได้พาทีมข่าวไปดูจุดที่ได้นำโลงศพมาตั้งไว้ให้ผู้คนเข้าไปปฏิบัติธรรม พร้อมเล่าให้ฟังว่า ตนเองก็ปฏิบัติเชื่อในเรื่องการทำอสุภะ แต่ไม่เชื่อในเรื่องหูทิพย์ตาทิพย์