ม.รามฯ แถลงมีมูล คนเข้าสอบแทน “นักการเมือง ส.”

ม.รามฯ แถลงมีมูล คนเข้าสอบแทน “นักการเมือง ส.”

71804 พ.ย. 67 13:11   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ม.รามคำแหง แถลงพบว่ามีมูล นักการเมือง ส. ส่งคนสอบแทน หลังตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียด พบหลักฐานมีคนเข้าสอบ-เซ็นชื่อแทนหลายครั้ง ด้านทนาย “สามารถ” เซอร์ไพรส์ร่วมฟังแถลงข่าวด้วย ยันไม่ได้ใช้ใครไปสอบภาษาแทน

(4 พ.ย. 67) ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยารามคำแหง แถลงข่าวปมการสอบของนักการเมืองรายหนึ่งที่ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยตั้งกรรมการหลายชุดตรวจสอบเรื่องการส่งคนอื่นมาเรียนและสอบแทน ก่อนที่คณะกรรมการบริหารงานมหาวิทยาลัย (ก.บ.ม.ร.) มีมติให้ยุติเรื่องในปี 2565 


โดย ผศ.วุฒิศักดิ์ ระบุว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนเรื่องของนักการเมือง ส. นี้ในสมัยที่ตนเองเป็นรักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงในปี 2564 ขณะนั้นได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาชุดหนึ่ง ซึ่งผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดดังกล่าว พบหลักฐานว่า มีบุคคลเข้ามานั่งสอบและเซ็นชื่อแทนนักการเมือง ส หลายครั้ง ก่อนที่คณะกรรมการชุดนี้จะเสนอเรื่องต่อไปที่ คณะกรรมการบริหารงานมหาวิทยาลัย (ก.บ.ม.ร.) ที่สอบสวนต่อในยุคของอธิการบดีอีกคนหนึ่ง จนกระทั่งต่อมามีมติ ก.บ.ม.ร. สั่งยุติเรื่องไปในยุคของอธิการบดีคนดังกล่าว


ผศ.วุฒิศักดิ์ ระบุว่า ตนเองทราบสาเหตุการยุติเรื่องของ ก.บ.ม.ร. ชุดที่สั่งยุตินั่น ส่วนตัวมองเหตุผลฟังไม่ขึ้น เนื่องจากคนที่ไปสอบแทน อ้างว่าได้มาเข้าสอบในวันดังกล่าวจริง แต่ไม่ใช่การสอบแทนนักการเมือง ส แต่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดแรกมีหลักฐานชัดเจน 



พร้อมบอกว่า ปัจจุบันที่ตนเองกลับมารับตำแหน่งอธิการบดี จึงจะสั่งให้มีการตรวจสอบมติคำสั่งยุติสอบอีกครั้งว่าเป็นยุติเรื่องโดยชอบหรือไม่ หากยุติเรื่องมิชอบ จะส่งให้ที่ประชุมผู้บริหารพิจารณาดำเนินการต่อไป พร้อมยืนยันว่าการรื้อเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองในมหาวิทยาลัย ตนเองยังมีความรักความผูกพันกับอดีตอธิการบดี แม้จะมีเรื่องฟ้องร้องกันไปมาหลายเรื่อง เรื่องการกลั่นแกล้ง ไม่มีอยู่ในใจผมเลย


ในระหว่างการแถลงข่าว ปรากฎว่ามีนายธีรศานต์ แก้วสง ทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช มาร่วมฟังการแถลงข่าวปะปนกับสื่อด้วย ภายหลังฟังการแถลงข่าวจบ ทนายความออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ ยืนยันว่า นายสามารถไม่เคยใช้ใครให้ไปเรียนหรือสอบภาษาแทน  โดยการเรียนภาษา ไม่ใช่หลักสูตรปริญญาเอก แต่เป็นการเรียนที่สถาบันภาษา เพื่อให้ได้ประกาศนียบัตร ซึ่งต้องใช้ประกอบรับรองการจบปริญญาเอกตามหลักเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย 


ทนายความ ยอมรับว่า ในช่วงเวลาที่มีการสอบสวน นายสามารถจ่ายเงินเพื่อเข้าอบรมภาษา แต่ไม่ได้เข้าเรียนและเข้าสอบในครั้งแรก เนื่องจากติดภารกิจ แต่ต่อมาได้ลงเรียนครั้งที่ 2 ซึ่งรอบนี้มาเรียนจริงจนได้ประกาศนียบัตรมายื่นต่อมหาวิทยาลัย 



ส่วนที่รักษาการอธิการบดีฯ บอกว่ามีหลักฐานชัดว่ามีคนอื่นเข้ามาสอบและเซ็นชื่อแทนนายสามารถ ทนายความ ยืนยันว่า นายสามารถไม่รู้จักบุคคลดังกล่าว และไม่ได้ใช้บุคคลดังกล่าวให้เข้่าไปสอบแทน 


เมื่อสอบถามว่าการที่บุคคลดังกล่าวเข้าไปสอบ ได้เซ็นชื่อแทนนายสามารถหรือไม่ ทนายความตอบว่า เป็นเรื่องภายในสำนวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนการลงชื่อแทนนายสามารถ บุคคลดังกล่าวได้ประโยชน์อะไร ทนายความบอกว่า “ผมก็ไม่รู้” 


ทนายความของนายสามารถ บอกอีกว่า การมาในวันนี้เพื่อมารับฟังว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดหลักฐานอะไร เพราะตอนแรกบอกว่ามีหลักฐานเด็ด แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นมีหลักฐานอะไร ซึ่งหากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและรื้อเรื่องนี้ขึ้นมาจริง ตนเองเตรียมพิจารณาดำเนินคดีกับทางมหาวิทยาลัย เพราะมองว่าไม่มีอำนาจในการรื้อเรื่องที่จบไปแล้วขึ้นมาใหม่



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง